สถานการณ์ล่าสุดก่อนผมลงข่าวนี้คือ ดูเหมือนว่าเกมเอฟเอคัพระหว่างลิเวอร์พูลกับแอสตัน วิลล่า จะส่อแววเลื่อนออกไปก่อน จากกรณีที่ผู้เล่นและทีมงานของวิลล่าตรวจพบเชื้อโควิดกันหลายคน จนต้องปิดสนามซ้อม ซึ่งยังต้องรอดูต่อไปว่าจะเลื่อนหรือไม่อย่างไร แต่โอกาสเลื่อนน่าจะ 90 % ถ้าเลื่อนจริงเกมต่อไปของเราก็คือการเจอกับแมน ฯ ยูไนเต็ด วันที่ 17 นี้ ถือว่าเราจะได้พักอีกเกือบ 10 วัน แต่ก่อนหน้านั้นแมนยู จะเตะนัดตกค้าง 1 เกมกับเบิร์นลีย์ ขอแค่ไม่แพ้ พวกเขาก็จะขึ้นเป็นจ่าฝูงก่อนเกมแดงเดือดทันที ไปติดตามประเด็นน่าสนใจอื่น ๆ กัน
ซื้อกองหลังเถอะขอร้อง
สภาพทีมของลิเวอร์พูลในเกมล่าสุดกับนักบุญเราโยกเอากองกลางสองคนไปเล่นเป็นคู่เซ็นเตอร์ สะท้อนถึงวิกฤติแนวรับของหงส์แดงได้เป็นอย่างดี หลายฝ่ายมองว่าลิเวอร์พูลควรจะมีการเสริมทัพในตลาดเดือนมกราคมนี้ แต่ตลาดก็เปิดไปนานกว่า 1 อาทิตย์ยังไม่มีทีท่าว่าหงส์แดงจะได้ใคร
แม้การซื้อกองหลังในเวลานี้จะเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่ในมุมมองของ จอห์น บาร์นส์ อดีตปีกตัวเก่งของเรา เขามองว่าเป็นสิ่งจำเป็น เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หงส์แดงมีข่าวกับเอมบัปเบว่า “เอ็มบั๊ปเป้ ไม่ใช่คำตอบของ ลิเวอร์พูล สำหรับการแก้ปัญหาระยะสั้น ลิเวอร์พูล มีแนวรกทุกที่แข็งแกร่ง และมีตัวเลือกเยอะแยะในตำแหน่งมิดฟิลด์ แต่เซนเตอร์แบ็กคือตำแหน่งที่พวกเขาจำเป็นต้องเสริมทัพให้ได้”
นั่นเป็นอีกหนึ่งเสียงที่เรียกร้องให้ลิเวอร์พูลเสริมกองหลังเพื่อแก้ปัญหาระยะสั้นไปก่อน แต่ในมุมมองของคล็อปป์ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนเกมดวลกับวิลล่า เขาได้พูดถึงประเด็นการซื้อนักเตะเพิ่มของลิเวอร์พูลในตอนนี้ว่า
ผมไม่สามารถพูดได้ว่าเราจะไม่ดึงนักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้เพราะสถานการณ์ของโลกในตอนนี้ เราไม่ควรลืมสถานการณ์ที่มันยากลำบากสำหรับทุกคนและสโมสรฟุตบอล มีไม่กี่สโมสรเท่านั้นที่ไม่มีปัญหาการเงิน สโมสรแห่งนี้ เราต้องมีความรับผิดชอบอย่างสูงกับสิ่งที่เราทำเสมอ
“โลกกลับมาสู่สภาวะปกติ ทุกๆ อย่างดีขึ้น และเราคว้าแชมป์ลีกกับแชมเปี้ยนส์ลีก สโมสรย่อมอยู่ในสถานะที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นคุณก็พบว่าเซนเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน รวมทั้ง ฟาบินโญ่ และก็เด็กๆ ดาวรุ่ง ทุกคนบาดเจ็บ นี่คือสถานการณ์ที่เราควรจะต้องทำอะไรซักอย่างไหม ใช่แน่นอน แต่เราไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะทำได้
“ดังนั้นผมไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ บางทีเราอาจจะทำบางอย่าง แต่มันเป็นแค่การแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น หากเลือกได้เราไม่ได้อยากแก้ปัญหาในระยะสั้น นั่นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆ”
หากจับประเด็นและน้ำเสียงของคล็อปป์ เชื่อว่ามกราคมนี้ลิเวอร์พูลจะไม่ยื่นซื้อกองหลังราคาแพง ๆ แน่ แต่ดูเหมือนว่าแม้ไม่ชอบการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่คล็อปป์ก็ไม่ได้ปฏิเสธซะทีเดียว บางทีเราอาจจะมีเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นมาสักคน แต่คงเป็นตัวช่วยระยะสั้น คล้าย ๆ กรณีของอาเดรียน มากกว่า
เจอราร์ดพร้อมสานต่องานคล็อปป์หรือยัง
อีกหนึ่งเรื่องที่กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งคือ เรื่องกุนซือที่จะมาทำหน้าที่ต่อจากคล็อปป์ เรื่องของเรื่องก็คือ ฤดูกาลนี้ เจอร์ราร์ด พาทีมเรนเจอร์สโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงมาก ๆ แข่งไป 22 เกม ชนะถึง 20 และเสมอ 2 ยังไม่แพ้ใครเลยในลีก ทิ้งห่างรองจ่าฝูงอย่างเชลติกถึง 19 แต้ม โอกาสคว้าแชมป์แบบไร้พ่ายมีสูงมากทีเดียว ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งข้อสังเกตแล้วว่า เจอร์ราร์ดพร้อมแล้วหรือยังกับการกลับมาคุมทีมหงส์แดง
ฟิลล์ ธอมป์สัน อดีตนักเตะของเรามองว่า ตอนนี้เจอร์ราร์ดมีความพร้อมแล้วที่จะกลับมาคุมทีมหงส์แดงต่อจากคล็อปป์ เขายกตัวอย่างของ แกรม ชูเนสส์ ว่าใกล้เคียงกับสถานการณ์ของกัปตันหมายเลข 8 ของทีม
“ถ้ามันเคยดีพอสำหรับแกรม ชูเนสส์ ที่เคยคุมทีมเรนเจอร์สและกลับมาคุมทีมหงส์แดง ผมว่าเจอร์ราร์ดก็น่าจะได้โอกาสเหมือนกันที่จะกลับมาสานต่องานของคล็อปป์ที่ลิเวอร์พูล ตอนคล็อปป์ต่อสัญญาใหม่นั้น พอวันรุ่งขึ้น เจอร์ราร์ดก็ต่อสัญญากับเรนเจอร์ส โดยมีสัญญาถึงปีเดียวกันกับคล็อปป์”
“เขาเป็นหนึ่งในคนที่เข้ามาในความคิดเมื่อคิดถึงผู้จัดการทีมคนต่อไปของลิเวอร์พูล เขายังเคยเป็นโค้ชให้เยาวชนของเราอีก 2 ปี ได้เห็นการทำงานของคล็อปป์ การฝึกสอน เขาจึงรู้ลึกถึงสิ่งที่คล็อปป์ทำ ซึ่งจะช่วยเขาเดินไปข้างหน้า เพราะเทบจะไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากเมื่อกลับมาถึง”
ส่วนในทัศนะของคาราเกอร์เพื่อนร่วมทีมของเจอร์ราร์ดเอง เขามองว่า เจอร์ราร์ดนั้นอย่างไรเสียก็ต้องกลับมาคุมทีมสักวัน แต่คาราเกอร์ยังมองว่าประสบการณ์ทำงานของเจอร์ราร์ดอาจจะยังไม่มากพอ โดยเขายกตัวอย่างการกลับมาคุมทีมเชลซีของแลมพาร์ดเพื่อนร่วมทีมชาติว่า จะเป็นตัวอย่างให้เจอร์ราร์ดเห็นว่าการทำงานจะต้องสั่งสมประสบการณ์และบารมีก่อน
“เจอร์ราร์ดไปที่เรนเจอร์สและกำลังทำผลงานได้ดี แต่ถามว่าผมอยากให้เขากลับมาคุมทีมที่ลิเวอร์พูลโดยปราศจากประสบการณ์ที่มากพอหรือไม่ แน่นอนว่าไม่ ผมแค่คิดว่า เมื่อคุณจะทำงานใหญ่ โดยไม่มีประสบการณ์ คุณก็จะเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนกับแฟรงค์ ตอนนี้”
โดยสรุปก็คือ สัญญาของเจอร์ราร์ดกับคล็อปป์จะหมดในปี 2024 พร้อมกัน เจอร์ราร์ดยังมีเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกหลายปี เช่นเดียวกันกับคล็อปป์ที่มีเวลในการวางรากฐานทีมและโครงสร้างทีมที่แข็งแกร่งให้กับเขา การทำงานโดยสอดประสานกันเช่นนี้ ผลดีย่อมตกอยู่กับทีมของเราที่จะแข็งแกร่งแบบนี้ไปอีกนาน
ท่านเปาแจงปมหงส์พลาดจุดโทษ
แม้จะจบเกมไปแล้ว แต่ยังคงเป็นกระแสที่ให้พูดคุยกันมาต่อเนื่องกับเกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปพ่ายนักบุญ 1-0 โดยในเกมมีสองจังหวะที่หงส์แดงน่าจะได้จุดโทษแต่ผู้ตัดสินมาริเนอร์ไม่ได้เป่าให้ เป็นผลให้คล็อปป์ให้สัมภาษณ์หลังเกมแบบระเบิดอารมณ์ แถมยังพาดพิงแมนยูว่าได้จุดโทษบ่อย จนกลายเป็นวิวาทะย่อม ๆ ของกุนซือทั้งสองทีม
ในมุมมองของผู้ตัดสินอย่าง เดอร์ม็อต กัลลาเกอร์ อดีตผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก ให้ความเห็นว่า อันเดร มาร์ริเนอร์ ทำถูกแล้วที่ไม่ให้ลูกจุดโทษ ลิเวอร์พูล ทั้ง 2 จังหวะ โดยเขาได้อธิบายเหตุผลอย่างละเอียดว่า
“ผมดูเกมนี้แบบถ่ายทอสด และไม่คิดว่ามีจังหวะไหนที่ควรเป็นจุดโทษเลย ผมคิดว่ากรรมการควบคุมสถานการณ์ในเกมได้ดี ที่จริงมันไม่มีอะไรที่น่าเป็นประเด็นให้เถียงกันเลยนะ ผมไม่คิดว่าจังหวะของ แจ็ค สตีเฟ่นส์ ควรเป็นจุดโทษ สิ่งที่คุณควรจะสนใจก็คือเขาตั้งใจยกมือมาบล็อกลูกยิงรึเปล่า ? คำตอบคือไม่เลย แขนของเขาก็ควรจะอยู่ในท่านั้นอยู่แล้วตามธรรมชาติ ผมไม่ได้พูดถึงการสอดแขนมาตรงลำตัว แต่ผมหมายถึงท่าทางตามธรรมชาติที่แขนควรจะอยู่”
“ตอนนั้นคนที่เป็นกองหลังพยายามที่จะบล็อกบอล เขาทำให้ร่างกายของตัวเองอยู่ในจุดที่ถูกต้องตามกฎเพื่อบล็อกลูกนั้น เขาไม่ได้ตั้งใจกางแขนออกมาเลย แถมจังหวะนั้นบอลมันยังพุ่งมาจากระยะใกล้ๆ และพุ่งเข้ามาเร็วมากๆ ด้วย แน่นอนว่าบอลไปโดนศอกของเขา แต่ผมไม่คิดว่าจะมีกรรมการคนไหนที่เป่าให้ลูกนี้เป็นจุดโทษหรอก”
“ส่วนอีกจังหวะ ผมว่าเป็นการพัวพันแย่งบอลกัน วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส เข้าไปแย่งบอล ผมคิดว่าเขายื่นขาออกไป และ มาเน่ ก็พยายามจะฉีกออกไปให้ได้ ทั้ง 2 จังหวะมันเกิดขึ้นพร้อมกัน การเป่าให้เป็นลูกจุดโทษคงจะเป็นคำตัดสินที่รุนแรงเกินไป วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส พยายามที่จะไม่ถึงขั้นสกัดแบบรุนแรงอย่างแน่นอน
“ตอนนั้นกรรมการเองก็อยู่ในจุดที่มองเห็นทุกมุมได้ชัดเจนอยู่แล้ว มันไม่มีมุมไหนที่ดีกว่ามุมนั้นด้วยซ้ำ เขามองเห็นมันแบบชัดเจน เขามองเห็นว่ามีการโดนตัวกัน รวมถึงมองเห็นว่ามันมีการโดนตัวกันในรูปแบบไหน เพราะมันมีการแตะเนื้อต้องตัวกันแน่นอน และสุดท้ายเขาก็บอกว่ามันไม่ใช่ลูกจุดโทษ ทีมงาน วีเออาร์ เองก็ตรวจสอบจังหวะนี้อย่างรวดเร็วและเห็นด้วยกับกรรมการเหมือนกัน”
อืมอธิบายดีขนาดนี้อยากให้แกไปช่วยอธิบายลูกจุดโทษของบรูโน่หน่อยละกันว่าการลากขาไปแบบนั้นควรได้จุดโทษไหม ช่วยอธิบายให้ละเอียดแบบเข้าใจแม้กระทั่งว่านักเตะคิดอะไรแบบนี้ทีเถอะพ่อ เดอร์ม็อต เพราะถ้าคิดแบบเขาคงไม่มีนักเตะคนไหนตั้งในทำจุดโทษแน่ ๆ