ระบบใหม่ประทับใจเป็นบ้าและ 5 เรื่องน่าประทับใจหงส์แดงชนะเรนเจอร์ส

ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะเรนเจอร์สได้ 2-0 ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 3 ของ UCL ทำให้หงส์แดงเก็บได้เป็น 6 แต้ม เป็นรองจากนาโปลีทีมจ่าฝูงของกลุ่มที่ชนะรวด 3 เกมมี 9 คะแนน แน่นอนว่าแฟนหงส์แดงหลายคนที่ได้ดูเกมนี้ ก็จะต้องรู้สึกประทับใจกับผลงานของทีมกันแน่ วันนี้เราเลยรวบรวมมาให้อ่านกันว่า เมื่อคืนมันมีเรื่องอะไรน่าประทับใจกันบ้าง

ลิเวอร์พูลทีมนี้ยังสู้

ผมยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคนที่เริ่มตั้งแง่กับการทุ่มเทการเล่นของนักเตะหงส์แดงในหลาย ๆ เกมที่ผ่านมา จนอยากจะเชื่อตาม ๆ คนอื่นเหมือนกันว่า นักเตะของเราชุดนี้เล่นกันไม่เต็มที่แล้ว หมดไฟแล้ว เลยจุดพีคแล้ว แต่ประเด็นก็คือ เราไม่ได้เห็นแบบนั้นทุกนัด กราฟผลงานของหงส์แดงมันออกมาในลักษณะขึ้น ๆ ลงๆ มากกว่าดำดิ่ง

ถ้ากราฟมันดำดิ่งลงมาเช่นแพ้ 4 เกมติด ไม่ชนะ 5 เกมติด อะไรแบบนั้นผมอาจจะเชื่อว่านักเตะไม่เอาแล้ว ผมว่าหลังเกมกับไบร์ทตันน่าจะมีการพูดคุยบางอย่งกันมากขึ้นภายในทีม ทั้งคล็อปป์และนักเตะหลายคนก็ได้ออกมาระบาย ได้พูดได้อธิบายกับสื่อ และที่สำคัญคือการที่คล็อปป์และนักเตะยอมรับว่าพวกเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันจริง นั่นอาจจะทำให้แรงกดดันมันลดลง

เกมนี้เราจึงเห็นนักเตะเหมือนฮึดสู้อีกครั้งในเวทีที่พวกเขาแทบจะไม่มีความกดดันอะไรอย่าง UCL นักเตะทุกคนวิ่งไล่ มีแพสชั่นในการเล่น กระตือรือร้น และอยากเป็นผู้ชนะในเกมนี้มาก จริง ๆ วิธีการเล่นแบบนี้มันควรเป็นเรื่องปกติของหงส์แดงไม่ใช่เรื่องน่าประทับใจอะไร เพียงแต่เมื่อมันเกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ทีมกำลังเสียศรัทธาในตัวเอง มันเลยทำให้เห็นว่าทีมชุดนี้ยังสู้อยู่ แม้จะล้มลุกคลุกคลานไปบ้าง

ระบบใหม่ประทับใจเป็นบ้า

ในที่สุดคล็อปป์ก็บรรลุสัจธรรมที่ว่า คุณไม่สามารถหวังผลที่แตกต่างจากการกระทำเดิม ๆ ได้ หลังจากบดบี้ตะบันใช้แผนการเล่นแบบ 4-3-3 มานาน วันนี้คล็อปป์เปลี่ยนมาใช้ในแผน 4-2-3-1 หรือจะมองเป็น 4-4-2 หรือ 3-5-2 หรือ 4-2-4 ในบางจังหวะก็ตาม แต่ในแกนหลักคือการใช้กองกลางตัวต่ำลงมา 2 คน และการใช้ตัวรุก 4 คนนั่นเอง

หลัก ๆ ผมมองว่ามันเป็นการแก้ปัญหาเรื่องเกมรับ การที่เราลดจำนวนนักเตะแดนกลางลง 1 ตำแหน่ง ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะมันทดแทนมาด้วยตำแหน่งการยืนที่รัดกุมขึ้น ทั้งติอาโกและเฮนเดอร์สันลงมาใกล้กับกองหลังมากขึ้น นั่นทำให้เฮนเดอร์สันเองก็มีเวลาและพื้นที่มากพอในการไปประคองตำแหน่งทางฝั่งเทรนท์ยามเติมเกมสูง

อีกหนึ่งข้อดีที่เห็นจากลักษณะการยืนต่ำของแดนกลางสองคนคือ การวางบอลยาวจากแนวลึกของหงส์แดง ทั้งจากติอาโกและเฮนเดอร์สัน โดยเฉพาะรายหลังนี่เด่นมากในเกมนี้เรื่องการวางบอล มีจังหวะที่วางบอลให้นูเญชสวย ๆ ด้วย การที่เฮนเดอร์สันไม่ต้องเติมเกมมาก วิ่งขึ้นวิ่งลงทางฝั่งขวามันทำให้เขามีโฟกัสกับการเล่นบอลมากขึ้น ไม่ต้องเร่งจังหวะมาก

เรื่องที่ยังต้องปรับปรุงมาก ๆ เลยก็คือการประสานงานของ 4 ตัวรุกด้านบนที่แม้จะเล่นเกมเพรสซิ่งได้ดี แต่ยังมีวิ่งทับพื้นที่ กันอยู่ เหมือนคนวิ่งในสถานการณ์วุ่นวายอยู่ มันจึงดูติดขัดมากกว่าไหลลื่น ดูขาดเกินมากกว่าพอดี นี่เป็นการซ้อมร่วมกันครั้งแรกในแผนใหม่นี้ มันจึงเข้าใจได้ แต่นักเตะเหล่านี้เริ่มจะได้เล่นร่วมกันมากขึ้นแล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนมาเล่นแผนใหม่อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ยังต้องการเวลาปรับจูน

ผมมองว่าเป็นแผนที่ค่อนข้างลงตัวในการจัดตัวผู้เล่น เพราะประการแรกเลย คล็อปป์จะได้สลับกลาง 3 ตัวที่มีอยู่จำกัดมาก ในเกมนี้เราได้พักฟาบิญโญ่ ก็ไม่แน่ว่าเกมต่อไปอาจจะได้พักเฮนเดอร์สันหรือพักติอาโก นี่จะลดความเสี่ยงเรื่องแดนกลางขาดหายไปพอสมควร

ขณะเดียวกันการวางบทบาทของแนวรุกก็เริ่มชัดเจนยิ่งขึ้น ใครจะยืนตำแหน่งไหน เล่นบทบาทอะไร โดยเฉพาะของโจตาที่จากเดิมผมมองว่าเขาจะหาตำแหน่งเล่นยาก วันนี้เขาได้เล่นเป็นกองหน้าคู่กับนูเญชเลย และการสลับเอาฟีร์มิโน่ลงมาเล่นในช่วงครึ่งหลังก็สวมทับบทบาทที่ลงตัวกับระบบนี้ได้เลย เพราะคนละสไตล์กับโจตา แต่พื้นที่และตำแหน่งเล่นใกล้เคียงกันแถมได้มิติที่แตกต่างอีกด้วย

ข้อเสียอย่างเดียวของระบบนี้ก็คงเป็นที่ นักเตะอย่าง คาร์วัลโญ่, เอเลียตต์, สองตัวดาวรุ่งที่คล็อปป์หมายมั่นปั้นมือปีนี้อาจจะบทบาทน้อยลง โดยเฉพาะเอเลียตต์ที่พอไม่ใช่ระบบกลาง 3 เขาก็อาจจะหลุดตัวจริงยาว ๆ ไป เว้นเสียแต่ว่าท้ายที่สุดคล็อปป์จะให้เอเลียตต์เล่นเป็นอีกครั้ง แล้วมาเป็นแบ็กอัพให้กับซาลาห์ ส่วนคาร์วัลโญ่เป็นแบ็กอัพให้ดิอาช แบบนี้ก็ดูเข้าท่าดี

เทรนท์อาร์โนล์ด

หลายคนคงอยากเห็นคล็อปป์ดรอปนักเตะคนนี้บ้าง แต่คล็อปป์ก็ยังใจแข็งและซื้อใจนักเตะคนสำคัญคนนี้อยู่ เพราะในช่วงที่นักเตะโดนวิจารณ์หนักหากพักการเล่นอาจจะยิ่งกู่ไม่กลับ เกมนี้เทรนท์ก็ตอบแทนคล็อปป์ได้ดีจากการยิงฟรีคิกเข้าแบบสุดสวย ภาพที่เขาได้ปลดปล่อยความอึดอัดนาทีนั้นมันตอบแทนทุกอย่าง

เกมนี้เทรนท์มีการปรับวิธีการเล่นนิดหน่อยคือเขาจะไม่ค่อยเติมเกมมากเท่าไหร่ และมักจะยืนประจำการเป็นแนวรับทางฝั่งขวาอย่างตั้งอกตั้งใจ นี่เป็นการช่วยไม่ให้เขาหลุดตำแหน่งบ่อย ๆ ที่สำคัญคือการมีเฮนเดอร์สันลงมายืนใกล้ๆ ยิ่งทำให้การเล่นของเทรนท์วันนี้ไม่ก่อความผิดพลาดเลย

การมีคล็อปป์คอยกำกับแทคติกการเล่นและมีเฮนโด้ที่เป็นเหมือนพี่ใหญ่คุมการเล่นอีกต่อในสนาม ทำให้เทรนท์ดูเข้าร่องเข้ารอยมากขึ้น จังหวะหนึ่งเราได้เห็นเฮนเดอร์สันออกมาตะโกนสั่งเทรนท์แบบดุเดือด ซึ่งริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้สบถามเฮนโด้ ไปว่าเขาพูดอะไรกับเทรนท์ เฮนโด้บอกว่าเขาแค่กระตุ้นเทรนท์ว่าพยายามอย่าเสียบอลง่าย

นี่เป็นตัวอย่างที่ดีว่านักเตะที่ขึ้นแตะจุดสูงสุดในอาชีพด้วยอายุเพียง 23 อย่างเทรนท์จำเป็นมากขนาดไหนที่ต้องมีรุ่นใหญ่ทั้งในและนอกสนามคอยกำกับวิธีคิดและวิธีการเล่น เรายังเห็นติอาโกเอาผ้ามาให้เทรนท์พูดคุยกับเทรนท์ตอนโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนาม เหล่านี้มันจะช่วยให้เทรนท์ยังก้าวต่อไปในทิศทางที่ดีในอาชีพนี้ได้ และเป็นการเตรียมเขาให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของทีมในอนาคตอย่างแท้จริง

เฮนเดอร์สันช่างเฉิดฉาย

เว็บไซด์ทางการของหงส์แดงมอบตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมให้เทรนท์ส่วนของยูฟ่ามอบให้ซาลาห์ แต่สำหรับผมขอมอบให้เฮนเดอร์สันตามความรู้สึกของผม นี่คือนักเตะคนสำคัญที่เล่นได้ในมาตรฐานของตัวเองอย่างคงที่คงว่าที่สุด มีทัศคติการเล่นเพื่อทีมที่ยอดเยี่ยม มีความเป็นผู้นำ เขาทำให้มวลรวมของทีมมันดูนิ่งและแข็งแกร่งขึ้น

ไม่ว่าจะเล่นเป็นกลางขวาในระบบ 4-3-3 หรือวันนี้เป็นกลางต่ำทางฝั่งขวาในระบบ 4-2-3-1 เฮนเดอร์สันก็ยังคงทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดี เกมนี้เขาบอกเองว่าก่อนเกมมีการกำชับหน้าที่พิเศษมาแล้วว่าให้มาประคองเทรนท์ แต่วิธีที่เขาตอบนักเตะมันช่างให้เกียรติเทนรท์มากๆ เขาบอกว่า

“ผมคิดว่าคุณจะต้องให้โอกาสเขา (หมายถึงเทรนท์) ขึ้นไปเติมรุกบ้างเมื่อโอกาสมันอำนวย และสร้างสรรค์สิ่งที่เขาสามารถสร้างสรรค์ได้ในพื้นที่สุดท้าย ผมคิดว่าเขาเล่นเกมรับดีนะวันนี้ เขากลับไปเล่นตามเบสิกเดิม ๆ โดยรวมแล้วฟอร์มของเขาดีขึ้น และผมคิดว่าเขาทำมันได้ดี ผมจังไม่จำเป็นต้องลงมาประคองพื้นที่เขามากนัก”

นี่เป็นคำตอบที่ทั้งเข้าใจแท็คติกของทีม เข้าใจวิธีการเล่นของเพื่อนร่วมทีม เข้าใจบทบาทของตัวเอง เคารพและสนับสนุนสไตล์การเล่นของเทรนท์อย่างเต็มที่ จึงไม่แปลกที่ทั้งโอเว่นและริโอจะมองตรงกันว่าวันนี้การเล่นของเฮนเดอร์สันมันทรงพลังและสนับสนุนเทรนท์อย่างมาก สำหรับผม ถ้าเฮนเดอร์สันไม่ลง เทรนท์ไม่มีทางเฉิดฉายได้ในคืนนี้

การยิงจุดโทษแบบใหม่

อันนี้อาจจะเป็นประเด็นเล็ก ๆ แต่น่าสนใจดี คือจังหวะที่เราได้จุดโทษแล้วซาลาห์กำลังวิ่งไปยิง ด้านหลังเขาเราจะเห็นเฮนเดอร์สัน ทำท่าทางเลียนแบบไปพร้อมๆ กับซาลาห์ ไม่รู้ว่าใครคิดเทคนิกนี้มาใช้แต่มันทำให้ผู้รักษาประตูโดนรบกวนแน่นอน และที่สำคัญคือจังหวะที่ซาลาห์ยิง มันก็พอดีกับจังหวะที่กัปตันกำลังจะเข้ากรอบ หากมีการปัดการเซฟบางทีกัปตันอาจจะเข้าถึงบอลก่อนโกลหรือผู้เล่นของเรนเจอร์ได้

ซิมิกาสกำลังมา

ฟอร์มการเล่นที่ไม่หวือหวา แต่คงเส้นคงมาก ซิมิกาส กำลังทำให้ตำแหน่งของโรเบิร์ตสันสั่นคลอน แม้วันนี้การเติมเกมรุกของเขาอาจจะยังขาด ๆ เกิน ๆ การเปิดบอลอาจจะยังดูไม่แม่นยำ แต่สิ่งที่เห็นมาหลายเกมคือเขาเด่นเรื่องการลงมาช่วยเกมรับมาก มีจังหวะที่เขาช่วยทีมสกัดหรือป้องกันลูกสำคัญ ๆ ได้เสมอ เหมือนเมื่อคืนช่วงท้ายเกมที่เขาสกัดบอลออกจากเส้นได้เหลือเชื่อ หากลูกนี้เข้าไปช่วงเวลาที่เหลือหงส์แดงคงปั่นป่วนน่าดู

นูเญชปรับตัวได้ดี

แม้ไม่มีประตู แต่มีโอกาสยิงถึง 6 ครั้ง และโดนเซฟไปถึง 3 ครั้ง การวิ่งหาช่อง ดูคุกคามและอันตรายกับคู่แข่ง การประสานงานกับเพื่อนได้ยอดเยี่ยมขึ้น ตอนนี้นูเญชเริ่มปรับตัวเข้ากับแนวคิดและวิธีการเล่นของลิเวอร์พูลได้แล้วบางส่วน เขาซึมซับวิธีการเล่นเป็นทีม วิ่งเป็นทีม รับเป็นทีม รุกเป็นทีม เริ่มรู้แล้วว่าจังหวะไหนควรพุ่งไปข้างหน้า จังหวะไหนออกข้างจะดี เล่นกับเพื่อนแบบไหนทีมได้ประโยชน์

อาจจะเรียกได้ว่าพื้นฐานเบสิกในการเล่นกับหงส์แดงผ่านแล้ว ที่เหลือคือคุณจะปรับเอาจุดเด่นของคุณมาใช้กับมันยังไง นี่เป็นสิ่งที่นูเญชยังต้องพัฒนา การยิงของเขาเข้าเป้าแต่ไม่เฉียบขาด วิธีการยิงของเขาตรงตามศาสตร์และขาดศิลป์ แต่เมื่อเขาได้ลงเล่นบ่อย ๆ ยิงได้เรื่อย ๆ โฟกัสกับเกมมาก ๆ ลดเรื่องอารมณ์ก่อกวนหรือการยั่วยุลง ผมว่านูเญชเป็นนักเตะที่น่ากลัวได้

และผมชอบการให้สัมภาษณ์หลังเกมของเขาที่ยอมรับแบบลูกผู้ชายว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องความคม และขาดความมั่นใจ เขาบอกว่า “ผมว่าผมเล่นทื่อไปหน่อย ยอมรับเลยว่าเป็นเรื่องความมั่นใจที่ตอนนี้ผมไม่ค่อยรู้สึกถึงมันมากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราจะต้องดีขึ้น ทุกคนพยายามสร้างความมั่นใจให้ผม พวกเขาน่ารักทุกคน โค้ช, เพื่อนร่วมทีม และแฟนบอล พวกเขาทำให้ผมมั่นใจว่าถ้าผมทำอะไรงี่เง่าไปอีกครั้ง พวกเขาก็จะอยู่ข้างๆผมเสมอ ซึ่งมันโคตรรดี”

ยกเว้นประโยคสุดท้ายอะนะ อ่านดูเหมือนยังไง ยังไงอยู่