รับให้ดีมีชัยแน่ และ 4 ประเด็นน่าสนใจก่อนหงส์เยือนอาร์เซนอล

เกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 8 ของหงส์แดงจะต้องไปเยือนทีมจ่าฝูงอย่างอาร์เซนอลที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงเหลือเกิน และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจก่อนเกมที่เรานำมาฝากกัน

บททดสอบแผนใหม่

การปรับเปลี่ยนระบบการเล่นจาก 4-3-3 ที่เน้นใช้กองกลางสามคนและตัวรุกสามคนมาเป็น 4-4-2 หรือ 4-2-3-1 ที่เน้นกองกลางสองคนและใช้ตัวรุก 4 คนของคล็อปป์เมื่อเกมที่ชนะเรนเจอรส์ กลายมาเป็นจุดสนใจของคอลูกหนัง เพราะนี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และใหม่ของคล็อปป์ในการคุมทีมหงส์แดง

แม้หลายคนอาจจะบอกว่า ระบบไม่เกี่ยวหรอก สำคัญที่วิธีการเล่นต่างหาก ต่อให้เปลี่ยนระบบไหนถ้ายังเล่นเหมือนเดิมก็ไม่รอดอยู่ดี ซึ่งก็มีส่วนถูก แต่ไม่ทั้งหมด วิธีการเล่นและเทคนิคบางอย่าง รวมถึงจุดมุ่งหมายและศักยภาพบางอย่างของนักเตะที่มีมันอาจจะเข้ากับระบบการเล่นบางอย่างก็ได้ อีกประเด็นสำคัญคือ ก็เพราะคล็อปป์อาจจะปรับวิธีการเล่นบางอย่างของทีมนั่นแหละ จึงต้องเปลี่ยนระบบ

คล็อปป์ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวก่อนเกมกับอาร์เซนอลว่าต่อไปนี้หงส์แดงจะไม่ยึดติดกับระบบอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะบบอะไรก็ตามขอแค่เข้ากับวิธีการเล่นและนักเตะที่มี คล็อปป์ก็พร้อมจะใช้มัน นี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนทางความคิดที่สำคัญของคล็อปป์ บางทีเราอาจจะเห็นการเล่นหลัง 3 คนที่คล็อปป์ไม่เคยใช้มาก่อนก็ได้

หลายคนเชื่อว่าในเกมกับอาร์เซนอลนั้น คล็อปป์จะเปลี่ยนมาใช้แผนใหม่เลย ไม่กลับไปใช้แผน 4-3-3 แล้ว จุดนี้มันถือเป็นความเสี่ยง แต่ก็เป็นจุดที่จะทำให้หงส์แดงพอจะมีโอกาสพลิกเกมอยู่บ้าง เพราะหงส์แดงเพิ่งเล่นระบบนี้ไปเพียง 1 เกมเท่านั้น อาร์เซนอล จึงมีเวลาศึกษาระบบการเล่นของคล็อปป์น้อยมาก ประกอบกับการที่เพิ่งได้ซ้อมแค่ 1 ครั้ง จึงทำให้คาดเดาไม่ได้ว่าคล็อปป์จะมีกลเม็ดเด็ดอะไรบ้าง สวนทางกับคล็อปป์ที่มีเวลามากในการศึกษาอาร์เซนอลชุดใหม่นี้

ปืนรุกหนักหงส์รับอ่อน

หากจะบอกว่าปัจจัยที่จะตัดสินเกมนี้อยู่ที่การเล่นเกมรับของหงส์แดงก็ไม่ผิด เพราะนี่เป็นจุดอ่อนเดียวที่ใหญ่มากของหงส์แดง เราไม่ได้หมายถึงเกมรับแค่แผงแบ็กโฟร์นะครับ เรากำลังหมายถึงการเล่นเกมรับของทั้งทีมในภาพรวม การไล่เพรส, การเข้ามาประคองตำแหน่งของเพื่อน, การซ้อน, การไล่บอล, การปะทะ, และที่สำคัญคือการแย่งบอลจังหวะสอง ที่หงส์แดงมักเป็นรองคู่แข่งเสมอ และหงส์แดงมักจะเข้าถึงบอลช้ากว่าคู่แข่งเสมอ

อันที่จริงหากเอาแค่ตัวเลข หงส์แดงไม่ได้เป็นรองอะไรอาร์เซนอลมากเลย หงส์แดงยิงไป 18 เสีย 9 มีผลบวก 9 แต่เล่นไป 7 เกม แต่มีแค่ 10 แต้ม อยู่อันดับ 9 ขอตาราง ขณะที่ อาร์เซนอลยิงไป 20 เสีย 8 ผลบวก 12 ปี อยู่ที่ 1 ของตาราง เกมรุกของหงส์แดง สร้างโอกาสยิงได้มากที่สุดในลีก 18.9 ครั้งต่อเกม อาร์เซนอลอันดับสาม 17.3 ครั้งต่อเกม

ขณะที่โอกาสยิงตรงกรอบพอ ๆ กัน คือหงส์แดง 6.6 อาร์เซนอล 6.4 ครั้งต่อเกม เท่ากับว่าหงส์แดงใช้โอกาสเปลืองกว่าอาร์เซนอลนิดหน่อย แต่นั่นไม่ใช่จุดแตกต่าง ที่แตกต่างคือเกมรับ หงส์แดงเปิดโอกาสให้คู่แข่งยิงเฉลี่ย 8.4 ครั้งต่อเกม น้อยมากเป็นอันดับ 3 ของลีก ขณะที่อาร์เซนอล 7.4 ครั้ง น้อยเป็นอันดับสองรองจากซิตี ที่เปิดโอกาสให้คู่แข่งยิงแค่ 6.5 ครั้งต่อเกมเท่านั้น

เท่ากับคู่แข่งของหงส์แดงฉกฉวยโอกาสยิงประตูจากโอกาสไม่มากนั้นได้ และที่สำคัญคือ ประตูที่พวกเขายิงใส่หงส์แดงได้นั้นมักจะนำมาสู่การแบ่งแต้มหงส์แดงในท้ายที่สุด ลิเวอร์พูลยิงประตูได้ไม่ต่างจากอาร์เซนอล เชลซี สเปอร์ส แมนยู เสียประตูพอๆ กับแมนซิตี แต่สิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้เหมือนทีมอื่น ๆ ข้างบนคือเก็บผลการแข่งขันที่ดีได้ หงส์แดงชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 1 อาร์เซนอลชนะ 7 แพ้ 1 แมนซิตีชนะ 6 เสมอ 2 นี่คือความต่างกันชัดเจน

การเล่นเกมรับของหงส์แดงที่ไม่รัดกุมมักจะเป็นฝ่ายทำให้ทีมตกเป็นรองคู่แข่งก่อนถึง 5 จาก 7 เกม ไล่ตีเสมอ 4 เกมและแซงชนะได้แค่ 1 เกม มิหนำซ้ำอย่างในเกมกับไบร์ทตันที่อุตสาห์พลิกนำ 3-2 ก็ยังโดนตามตีเสมอ 3-3 มันบ่งชี้ถึงคุณภาพเกมรับทั้งทีมที่ทดถอยมาก

ปีนี้อาร์เซนอลเป็นทีมที่เล่นเกมรุกได้น่กลัว พวกเขายิงไป 20 ประตู เป็นรองแค่เรือใบของฮาแลนด์เท่านั้น ถ้าหากไม่นับฮาแลนด์ที่ยิงคนเดียวไป 14 ประตูแล้ว อาร์เซนอลคือทีมที่มีค่าเฉลี่ยแบ่งกันยิงสูงมากในแนวรุก เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยการเลี้ยงผ่านคู่ต่อสูงที่สุดในลีก 11.1 ครั้งต่อเกม เชื่อมโยงกับสถิติการผ่านบอลสำเร็จสูงเป็นอันดับสองของลีกรองจากซิตีเท่านั้น

4 ตัวรุกแดนบนของอาร์เซนอล เฆซุส, มาร์ตินเนลลี่, ซาก้า, โอเดการ์ด ได้ลงเล่นด้วยกันสม่ำเสมอแทบจะทุกเกมในลีก มีเพียงโอเดการ์ดที่หายไป 1 เกม พวกเขาแค่ 4 คนช่วยกันทำไปได้ถึง 12 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ พูดให้ถูกก็คือใน 20 ประตูที่อาร์เซนอลทำได้ พวกเขาคนใดคนหนึ่งต้องมีส่วนร่วมไม่ว่าจะยิงหรือจ่าย

นับเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับแนวรับหงส์แดงอย่างมาก โดยเฉพาะทางฝั่งเทรนท์ที่จะต้องเจอกับนักเตะที่มีความคล่องตัวสูงอย่างมาร์ตินเนลลี่ เขาเป็นนักเตะที่มีสถิติเลี้ยงผ่านคู่แข่งมากถึง 2.5 ครั้งต่อเกมเป็นรองแค่เอเซ่ ของพาเลศเท่านั้น ขณะที่เฆซุสก็มีสถิติโดนตัดฟาวล์มากที่สุด 3 ครั้งต่อเกม แสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนสามารถปั่นป่วนแนวรับคู่ต่อสู่ได้ดี และเป้าหมายของพวกเขาในเกมนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเทรนท์

เทรนท์/นูเญช ทีเด็ดหงส์

แม้อาร์เซนอลจะแข็งแกร่ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อนเลย พวกเขาแพ้ให้กับแมนยู 3-1 จากการบุกเพลินแล้วโดนสวนกลับเร็วมักจะเสียประตูให้กับกองหน้าที่มีทักษะการเคลื่อนที่ดี ความเร็ว และการจบสกอร์ที่คม ไม่ว่าจะเป็น แรชฟอร์ด, มิโตรวิช, และเคน นอกจากนั้นกองหลังของพวกเขาแม้จะแข็งแกร่งแต่ยังมีจุดพลาดเรื่องการเข้าสกัดที่อาจจะทำให้เสียจุดโทษบ้าง เข้าประตูตัวเองบ้าง เสียประตูจากลูกเตะมุมบ้าง

ตรงจุดนี้เองที่ผมมองว่าหากเกมนี้ นักเตะ 2 คนของหงส์แดงทำผลงานได้ดี จะเป็นคีย์แมนให้ทีมได้ คือ เทรนท์ อาร์โนล์ด และดาร์วิน นูเญช การวางบอล การครอสบอลที่แม่นยำ และสร้างแรงกดดันให้กองหลังได้ รวมถึงการเล่นลูกเซ็ทพีทที่อันตรายทั้งจากเตะมุมหรือบริเวณในสนามจะช่วยหงส์แดงได้เยอะแน่

เป็นอีก 1 เกมที่ผมค่อนข้างคาดหวังกับนูเญช เพราะเขามีการเคลื่อนที่ที่ดี หาตำแหน่งได้ดี แถมยังสร้างโอกาสทำประตูได้มากมาย จากเกมกับเรนเจอร์สที่แม้เขาจะไม่ได้ทำประตู แต่ก็ได้รับคำชื่นชมมาก ในแง่ของคุณภาพการเล่น หากคล็อปป์ยังเล่นด้วยระบบ 4-4-2 ที่มีเขาเป็นกองหน้า และสามารถสร้างโอกาสให้เขา 6 ครั้งแบบเกมก่อน โอกาสที่นูเญชจะผลิตสกอร์ให้หงส์แดงได้บ้างในเกมนี้ก็มีเหมือนกัน และถ้าเป็นแบบนั้น แฟนบอลก็คงจะมีบุญปากได้ร้อง OMG เหมือนกับที่คล็อปป์เห็นนูเญชทำในสนามซ้อมบ้าง

ฟาบิญโญ่ลงตรงไหน

อีกหนึ่งนักเตะที่ผมคิดว่ามีความสำคัญกับเกมใหญ่ ๆ และเกมที่เล่นเร็ว เน้นการครองบอล และต่อสู้กันกลางสนามแน่น ๆ แบบนี้ก็คือฟาบิญโญ่ การเข้าบอลที่แม่นยำ การปักหลักแดนกลางของเขาจะช่วยชลเกมรุกของอาร์เซนอลได้แน่ เช่นเดียวกับที่อาร์เซนอลก็คาดหวังกับปาเตย์เช่นกัน

ปัญหาก็คือ ตอนนี้หงส์แดงเล่นระบบกลางสองคน ที่ลงตัวกับทั้งติอาโกและเฮนเดอร์สันซึ่งมีบทบาทสำคัญด้วยกันทั้งคู่ ติอาโก คุมจังหวะเกม การจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมของเขามีความจำเป็นมาก ขณะที่เฮนเดอร์สันช่วยให้ฝั่งขวาของหงส์แดงดูแน่นขึ้น การช่วยซ้อนอาร์โนล์ด ทำให้ไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น และวิสัยทัศน์การวางบอลยาวที่ไม่ธรรมดาของเขาก็ช่วยทีมได้เยอะ

เราจึงไม่รู้ว่านักเตะแดนกลางเชิงรับแน่นๆ แบบฟาบิญโญ่จะได้ลงตรงไหน ในความเห็นของผม เกมใหญ่แบบนี้เราขาดฟาบิญโญ่ไม่ได้ นี่เป็นเพียงเหตุผลเดียวที่ผมคิดว่าบางทีเกมนี้มันอาจจะไม่ใช่ 4-4-2, แต่อาจจะเป็น 4-1-4-1 ที่เวลาตั้งรับจะเป็น 4-5-1 โดยให้ฟาบิญโญ่เล่นอยู่หน้ากองหลัง ดัน ติอาโก และเฮนเดอร์สันขึ้นไปหน่อย ปีกสองข้างเป็นซาลาห์ ดิอาช และหน้าเป้าเป็น นูเญช เช่นกันผมหวังว่านักเตะอย่าง โจตา และ ฟีร์มิโน่ไม่ว่าจะลงตัวจริงหรือสำรอง พวกเขาจะสร้างความแตกต่างให้ททีมได้เช่นกัน