มุมดีก็มีอยู่ และ 5 ประเด็นที่ต้องพูดถึงหงส์แพ้ปืน 3-2

ในเกมที่ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เกมที่ดูแล้วรู้สึกว่าหงส์แดงสู้ได้ดีมากกว่าทำได้แย่ อันนี้ไม่ได้จะปลอบใจตัวเองว่าแพ้หรือแกล้งลืมว่าทีมผลงานไม่ดีมานานนะครับ เพียงแต่ว่าดูจากผลงานในสนามล้วน ๆ เราต้องตัดผลงานของปีที่แล้วออกไปจากหัวก่อน เอาเฉพาะปีนี้ ผมว่าเกมนี้มันมีจุดที่ทำให้รู้สึกว่าหงส์แดงได้พบเจอหลักไมล์อะไรบางอย่างของตัวเองแล้ว

คล็อปยึดมั่น 4-4-2

ต่อเนื่องจากเกมกับเรนเจอร์สที่คล็อปป์ปรับแผนการเล่นจาก 4-3-3 มาเป็น 4-4-2 เกมนี้คล็อปป์จัดตัวผู้เล่นชุดเดิมกับเกมกลางสัปดาห์ครบทุกตำแหน่ง ดาร์วิน นูเญช ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อเนื่องคู่กับโจตาในแดนหน้า กองกลางยังใช้ติอาโกยืนคู่กับเฮนเดอร์สัน

อย่างไรก็ตามระหว่างเกมหงส์แดงเจอกับสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ผู้เล่นเกิดอาการบาดเจ็บ คนแรกคือหลุยส์ ดิอาช ที่บาดเจ็บตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกจากจังหวะที่เจ้าตัวครองบอลไว้กับตัวนานจนทำให้โดนคู่แข่งเข้าสกัดบอลกระชั้นชิด คล็อปป์ต้องเปลี่ยนเอาฟีร์มิโน่ลงมา แล้วโยกโจตาไปเล่นปีกซ้ายแทนดิอาช

อีกหนึ่งจังหวะคือจังหวะที่เทรนท์โดนมาติลเนลลี่เข้าบอลแถมโดนข้อเท้าเจ้าตัวฝืนเล่นจนจบครึ่งแรกและก็โดนเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังและส่งโจ โกเมสลงมาแทน ทำให้แผน 4-4-2 ที่คล็อปป์เตรียมมากับผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดมีอันต้องสะดุดอีกตามเคย

กระนั้นจากการเปลี่ยนแปลง 2 ตำแหน่งในเวลาแค่ 45 นาทีนั้น ก็ไม่ได้ย่ำแย่ โจตาในมิติของปีกซ้ายเขาทำได้ค่อนข้างดีกับจังหวะการไปกับบอลริมเส้น การพยายามเชื่อมกับฟีร์มิโน่และนูเญช ขณะที่ฟีร์มิโน่ก็ทำให้บอลของลิเวอร์พูลสามารถเจาะตรงกลางได้มากขึ้น และเขาก็ทำได้ 1 ประตู

ส่วนโกเมส ผมว่ามิติเกมรับเขาทำได้ดี โดยเฉพาะสถานการณ์ 1 ต่อ 1 กินเขาอยากอยู่ แต่ก็แลกมากับมิติของเกมรุกการสร้างเกมจากแนวรับที่เขายังทำได้ไม่ดี แต่หากเกมรับคือจุดที่ต้องขันด่วน อย่างน้อยช่วง 45 นาทีหลังที่เขาลงมาหงส์แดงก็ไม่เสียประตูจากโอเพ่นเพลย์ และทางขวาก็ไม่เป็นบ่อให้เจาะได้ง่าย

นี่เป็นเกมที่สองอีกเช่นกันที่ช่วงท้ายเกมคล็อปป์กลับมาใช้แผน 4-3-3 ด้วยการส่งฟาบิญโญ่ลงมาแทนซาลาห์ ในนาทีที่ 69 และต้องบอกว่ามันทำให้เกมของหงส์แดงดูดรอปลงชัดเจนทั้งสองนัด คือ เราแทบจะไม่ได้สร้างโอกาสในแดนบนเลย และการต่อบอลอะไรก็ดูติดขัด เหมือนไม่ใช่ระบบที่คุ้นเคยแล้ว ตรงนี้ผมยังหาคำตอบไม่เจอว่าทำไมคล็อปป์ต้องปรับระบบแบบนี้มา 2 เกมแล้ว จะบอกว่าส่งฟาบิญโญ่มาเพื่อแพ็กแดนกลาง ผมว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย

อาร์เตตาร์ดักทางคล็อปป์

ในเกมกับเรนเจอร์ส วิธีการเล่นหนึ่งที่คล็อปป์ปรับมาใช้กับ 4-4-2 คือ การดรอปไม่ให้อาร์โนล์ดเติมเกมสูง แต่จะขึ้นเกมทางซิมิกาสเป็นหลัก และจะขึ้นเกมรุกทางดิอาชมากกว่าซาลาห์ ดังนั้นเกมนี้อาร์เตตาร์จึงแก้การขึ้นเกมของหงส์แดงโดยการให้เบน ไวท์แบ็กขวาของทีมดันขึ้นสูง ปิดการขึ้นเกมของซิมิกาส

ทุกจังหวะที่ซิมิกาสได้บอลเบนไวท์จะเข้าถึงตัวทันที มันได้ผลมากในช่วง 20 นาทีแรก หงส์แดงแทบจะหาทางขึ้นเกมจากซิมกาสไม่ได้เลย นั่นทำให้กองกลาง กองหลังคนอื่นต้องถอนจากตำแหน่งตัวเองออกมารับบอลจากแดนหลังเพื่อขึ้นเกมบ้าง อาศัยบอลยาวจากฟานไดจ์ค ติอาโกบ้าง แต่ก็เป็นการออกด้านข้างกว้าง ๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ จุดนี้ว่าอาร์เตตาดักทางคล็อปป์ได้ดี และเป็นโจทย์ที่คล็อปป์ต้องแก้ต่อไป

การปลดล็อกของนูเญช

สำหรับผมเรื่องนี้สำคัญมาก ๆ กับการที่กองหน้าตัวความหวังของเราสามารถปลดล็อกการยิงประตูได้ในเกมใหญ่ มันทำให้เขามีความมั่นใจขึ้นมาก ตอบแทนความไว้ใจของคล็อปป์ที่ปรับแผนการเล่น 4-4-2 โดยมีเขาเป็นแกนหลักในแนวรุก ยอมถอยซาลาห์ออกห่างจากประตูเพื่อสนับสนุนการเล่นของเขา

ตั้งแต่เกมกับเรนเจอร์ส์มาจนถึงเกมนี้ นูเญช ถือว่าอยู่ในฟอร์มที่กำลังไต่ระดับขึ้น เกมนี้การเก็บบอลไว้กับตัวของเขาทำได้ดีขึ้นมาก การปะทะกับกองหลังอาร์เซนอลได้ดีในหลายจังหวะ โอกาสยิงน้อยลงจากเกมเรนเจอร์สครึ่งต่อครึ่งแต่เขาก็ทำประตูได้ อยู่ที่ว่านับจากเกมนี้เขาจะสานต่อตรงนี้ได้ดีขนาดไหน หากประตูของเขาต่อจากนี้มีส่วนทำให้หงส์แดงเก็บแต้มหรือชนะได้ ผมเชื่อว่ามันจะสร้างอิมแพ็คที่ดีต่อทั้งทีมในอนาคต

เรื่องดีก็มีอยู่บ้าง

อย่างที่บอกการแพ้อาร์เซนอลเกมนี้ถามว่าเหนือความคาดหมายไหม ก็ไม่ เพราะเราต่างรู้ดีว่าอาร์เซนอลทีมนี้พัฒนาขึ้นมากขนาดไหน อันดับตารางคะแนนไม่เคยโกหกเรา แนวรุก แดนกลาง แนวรับ ของอาร์เซนอลชุดนี้ลงตัวและเป็นหนึ่งเดียว เล่นด้วยกันอย่างมีเป้าหมาย นิ่งมาก เอาจริงนะ มันทำให้เรานึกถึงทีมของเราเมื่อสัก 3-4 ปีก่อนเลย

ดังนั้นการแพ้เกมนี้ไม่เหนือการคาดหมายหรอก สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดคือ วิธีการสู้กับอาร์เซนอลต่างหาก หลังจากโดนนำเร็ว ผมว่าหงส์แดงของเราอยู่ในเกมที่ดีจนกระทั่งดิอาชเจ็บและต้องเปลี่ยนออกนั่นแหละ ตลอด 40 กว่านาทีเราทำได้ดีมาก ๆ ในการไล่เพรสอาร์เซนอล หรือแก้เพรสพวกเขา

การเข้าทำก็ถือว่าสร้างอันตรายให้อาร์เซนอลได้เยอะ โอกาสการยิงส่วนใหญ่ของหงส์แดงมาจากช่วงนีทั้งนั้น นูเญช ดิอาช ซาลาห์ โจตา มีช่วงที่เล่นได้เปล่งปลั่ง เกมรับเราเองก็ช่วยกันได้ดีในช่วงนี้ แม้ในช่วงหครึ่งเวลาหลังเกมของเราจะดรอฟลงนิดนึง แต่โดยรวมเราไม่ได้ถูกอาร์เซนอลพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว หรือไม่สามารถสร้างโอกาสอะไรได้เลย

เราสามารถตีเสมอได้ 2 ครั้งสองครา จากจังหวะโอเพ่นเพลย์ทั้งสองลูก มันพัฒนามากขึ้นจากเกมกับเรนเจอร์สที่เกมนั้นเราได้ 2 ลูกจากเซตเพลย์ นี่คือเรื่องที่ดีหลังจากเปลี่ยนระบบใหม่ เราได้ 1 ประตูจากการเปิดด้านข้างของดิอาชให้นูเญชเข้าฮอส และได้อีก 1 ประตูจากโจตาแทงทะลุช่องตรงกลางให้ฟีร์มิโน่หลุดไปยิง ถือเป็น 2 มิติที่ทำได้ดีขึ้น

สมาธิและความมั่นใจ

โดยภาพรวมเกมวันนี้ อย่างที่คล็อปป์บอกมันไม่ได้เกี่ยวกับระบบการเล่นหรืออะไรเลย มันเป็นเพราะเราไม่มีสมาธิมากพอ การเสียประตูในนาทีแรกกับนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกมันตอกย้ำมาก ๆ ว่าเราเล่นกันไม่เนียนพอ โดยเฉพาะการเสียประตูที่สอง ที่กองหลังเราไม่จำเป็นต้องแห่กันดันขึ้นขนาดนั้น และคล็อปป์เองก็บอกว่า เขาคงพลาดเองที่ไม่ตะโกนด่านักเตะในจังหวะนี้

ถามว่าทำไมนักเตะเราไม่มีสมาธิ ฟานไดจ์ค ยอมรับแบบลูกผู้ชายเลยว่า เพราะเราสูญเสียความมั่นใจไป การที่เคยทำได้ในบางจังหวะมันก็เลยทำไม่ได้ ฟานไดจ์คบอกว่า เราไม่ได้ชนะต่อเนื่องเหมือนเมื่อก่อน เรื่องนี้ส่งผลต่อจิตใจนักเตะมาก เป็นสภาพการณ์ที่ไม่คุ้น

จะเรียกความมั่นใจมาจากไหน ก็ต้องชนะต่อเนื่องเท่านั้น และจะชนะต่อเนื่องได้ยังไง ก็ต้องลงเล่นให้มากที่สุด ลงเล่นให้ต่อเนื่องที่สุด ใช้นักเตะชุดเดิมให้บ่อยที่สุดเพื่อให้เกิดความเข้าขา ส่วนจะชนะต่อเนื่องได้เมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้ นักเตะและโค้ชก็ทำงานกันหนักเช่นกัน ยิ่งตอนนี้ดิอาชกับเทรนท์มาเจ็บอีก อาจจะส่งผลต่อความต่อเนื่องของทีม

อย่างที่คล็อปป์ยอมรับ ตอนนี้ลิเวอร์พูลมีงานที่ต้องแก้เยอะและมันต้องใช้เวลาทั้งนั้น เราไม่สามารถพูดได้แล้วว่าเราเป็นทีมที่ลุ้นแชมป์ แต่เราก็อย่าไปยอมแพ้ถึงขนาดว่าเราจะเป็นทีมที่ไม่อยากชนะในเกม ปีนี้เรื่องแชมป์ลีกคงต้องพักไว้ ประคองตัวเองให้ติดท็อปโฟร์น่าจะเป็นเป้าหมายที่พอมองถึง

ฟุตบอลมีขึ้นมีลง มีดีมีแย่ แฟนบอลก็ตามนั้น ใครจะโกรธจะเครียด จะด่า จะโวยวายก็คงเป็นเรื่องที่แต่ละคนจะรับผิดชอบต่ออารมณ์ของตัวเอง ส่วนตัวกระผมนั้น ผมว่าผมเข้าใจสภาพทีมที่เป็นอยู่ และรอเชียร์ รอให้กำลังใจทีมต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ผมเชื่อทีมกำลังจะดีขึ้นในไม่ช้า