ศึกพรีเมียร์ลีกเกมที่ 13 ของหงส์แดงจะต้องออกไปเยือนทีมอันดับสามอย่างสเปอร์สของอันโตนิโอ คอนเต้ ถือเป็นบิ๊กแมชท์อีกคู่ประจำสัปดาห์นี้ต่อจากคู่ของอาร์เซนอลและเชลซี และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจที่เรานำมาพูดคุยกันก่อนเกม
คู่แค้นแสนรัก
ลิเวอร์พูลอาจจะแข่งขันกับเรือใบในการลุ้นแชมป์ในรอบหลายปี แต่ทีมที่หงส์แดงเจอแล้วดุเดือด เลือดพล่าน มีประเด็นกันตลอดส่วนใหญ่เป็นทีมสเปอร์ส ก็ด้วยในยุคหลัง สเปอร์สใช้งานกุนซือจอมแทคติกไม่ว่าจะเป็น มูริญโญ่ หรือ ล่าสุดก็คอนเต้ ที่มักสร้างความปวดหัวให้กับคล็อปป์ได้เสมอ
อย่างในยุคคอนเต้ เมื่อปลายฤดูกาลที่แล้ว หงส์แดงกำลังคั่วแชมป์กับเรือใบมาติด ๆ เหลือเกมแข่งขันอีกเพียง 4 เกมหงส์แดงตามหลังซิตี 1 แต้ม เกมที่ 35 ก้างชิ้นใหญ่สำหรับหงส์แดงคือ สเปอร์ส และทีมของคอนเต้ก็หยุดไม่ให้หงส์แดงชนะได้ ด้วยการเสมอกัน 1-1 จากนั้นเกมที่ 37 แมนซิตีเกิดไปพลาดเสมอกับเวสต์แฮม 2-2
ผลเสมอกับสเปอร์สดังกล่าวจึงถูกมองว่าเป็นเกมที่ทำให้หงส์แดงอดคว้าแชมป์ในที่สุด นี่คือสิ่งที่คอนเต้นำมาเป็นจิตวิทยาก่อนแข่งของนัดนี้ทันที ด้วยการทิ่มไปที่แผลเก่าที่พวกเขาเคยทำได้ เคลมว่าพวกเขาคือคนที่ทำลายความฝันของหงส์แดงในการคว้าแชมป์ปีที่แล้ว
จริง ๆ จุดเริ่มต้นมันก็มาจากการที่คล็อปป์ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวหลังเกมที่เสมอเสปอร์สในครั้งนั้นว่า ไม่ชอบรูปแบบการเล่นของคอนเต้ ประมาณว่าไม่ชอบการอุดแล้วรอสวน คล็อปป์พยายามพูดเป็นนัยว่าสเปอร์สอุดมไปด้วยนักเตะระดับโลก น่าจะสู้กันไปเลย แต่นั่นแหละฟุตบอล คุณไม่สามารถขอให้คู่แข่งเล่นในแบบที่คุณชอบได้
คำพูดของคล็อปป์ในวันนั้นจึงย้อนกลับมาเป็นอาวุธชั้นยอดในสนามการสัมภาษณ์ของคอนเต้ เมื่อนักข่าวชงให้ตอบ ถามคอนเต้ว่า คอมเมนท์ในครั้งนั้นของคล็อปป์ถือว่าไม่สุภาพหรือไม่ คอนเต้ ก็ไม่รอช้าที่จะเล่นไผ่ใบนี้ คอนเต้ตอบว่า
“ก็ใช่นะ แต่ถ้าจำได้ เขาอดได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก เพราะผลการแข่งขันดังกล่าว..ผมเข้าใจความหงุดหงิดของเขา พวกเขาพลาดแชมป์เพราะ (ทำแต้มหล่น) สองคะแนนนั้น แต่คุณรู้ไหม ในทางตรงกันข้าม เราได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีกด้วยผลเสมอนั้น”
ตอนนี้สถานการณ์ของทั้งสองทีมในลีกมันกลับตาลปัตรไปหมด สเปอร์สกำลังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ พวกเขามีผลงานที่ดี มีขุมกำลังที่สดใหม่ ตอนนี้มี 26 แต้ม ตามหลังแมนซิตีเพียง 6 แต้ม ซึ่งถือเป็นช่องว่างที่ไม่หนีกันมาก เพราะสเปอร์สยังต้องเจอกับแมนซิตีอีก 2 เกม
ขณะที่หงส์แดงตามหลังสเปอร์สถึง 10 แต้ม อย่าว่าแต่โอกาสลุ้นแชมป์เลย ตอนนี้แม้แต่ท็อปโฟร์สำหรับหงส์แดงก็ลำบากมาก มิหนำซ้ำตัวเลขลำดับบนตารางก็อาจจะร่วงลงมาต่ำกว่า 10 ได้เสมอ เพราะมีคะแนน ห่างจากโซนตกชั้นเพียงแค่ 4 แต้มเท่านั้น
แล้วอย่าไปพูดถึงสถิติแบบว่า สเปอร์สไม่ชนะลิเวอร์พูลมา 10 เกมติดเลย ขนาดทีมลีดส์ผูกปีแพ้หงส์แดงมาหลายปีดีดัก ก็ยังเอาชนะเราได้เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่น่าสนใจคือสถิติเกมเยือนของหงส์แดงในลีกปีนี้ต่างหาก มันน่าห่วงขนาดไหน เก็บได้แค่ 2 แต้ม จาก 15 แต้ม เสมอ 2 แพ้ 3 ไม่ชนะใครในเกมเยือนเลย สถิตินี้ต่างหากคือของจริง
อยู่ที่ใจล้วน ๆ
สำหรับผมเกมกับสเปอร์สนั้นมันคาดเดายาก แต่ก็พอจะมีเกณฑ์อยู่สำหรับหงส์แดงในลีกปีนี้ หากเป็นเกมใหญ่ ต้องเจอกับทีมในระดับเดียวกัน พวกเขาดูจะมีกะจิตกะใจในการเล่นมากกว่าเกมอื่น ๆ แม้สภาพจะเป็นรองคู่แข่งก็ตาม
แพ้แมนยู แพ้อาร์เซนอล ในสภาพที่สู้ได้ ตั้งใจสู้ และชนะแมนซิตีได้ ฉะนั้นหากจะมองในมุมที่ดีสำหรับหงส์แดงบ้างก็ตรงที่ นี่เป็นเกมใหญ่ มันมีเรื่องของศักดิ์ศรีค้ำคอกันอยู่ เราก็ได้แต่หวังว่านักเตะจะมีแรงจูงใจพิเศษในการลงเล่น อย่างน้อย ก็คงอยากจะกู้หน้า คำปรามาสว่าไม่ได้แชมป์เพราะสเปอร์ส เปลี่ยนมาเป็นแรงฮึดที่จะดับฝันสเปอร์สคืนบ้าง
สภาพทีมไม่พร้อมทั้งสองทีม
การเจอกันของทั้งคู่ในช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงที่สภาพทีมไม่ค่อยสู้ดีนักด้วยกันทั้งคู่ สเปอร์ส อดใช้งานกองหน้าตัวตึงเวลาเจอหงส์แดงอย่างริชาริซอน และล่าสุดกับซอน เฮืองมิน ที่มีอาการบาดเจ็บจากเกม UCL กองหลังตัวเก่งอย่าง โรเมโร ก็เจ็บ ส่วนคูลูเซฟกียังไม่แน่ว่าจะได้ลงเล่นไหม เพราเพิ่งกลับมาซ้อมได้
ขณะที่หงส์แดง ยังมีนักเตะบาดเต็มสต๊อก ทั้งมาติป, ดิอาช, โจตา และนาบี เกอิตา ที่เข้า ๆ ออก ๆ ไม่มีทีท่าจะหายอีก 1 คน นอกจากนั้นเกมนี้ยังอดใช้งาน เจมส์ มิลเนอร์ ตามกฎที่ถูกเปลี่ยนตัวจากการกระทบกระเทือนต้องรอเช็คอาการ 6 วันด้วยกัน
ดูแล้วสเปอร์สที่ขาดตัวรุกตัวหลักไปเยอะงานนี้แทบไม่ต้องคิดอะไรเลย มาเน้นรับแน่น ๆ แล้วรอสวนกลับลิเวอร์พูลแน่ ๆ แผน 3-5-2 แพ็กแดนหลังแดนกลางปิดการเติมเกมด้านข้างของหงส์แดง แล้ววางแคนกับมูร่าไว้ รอเก็บตกสวนหงส์แดง
ขณะที่หงส์แดงนั้น ยังตอบยากว่าคล็อปป์จะใช้แผนไหนในการเล่น เกมกับนาโปลีล่าสุด คล็อปป์ใช้แผน 4-3-3 โดยเอาโจนส์ไปเป็นตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้าย แต่นั่นก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นเกมกับนาโปลีที่แทบจะไม่มีผลต่อการเข้ารอบ ตกรอบ และคล็อปป์ก็ได้พักโรเบิร์ตสันกับนูเญชและเฮนเดอร์สัน
โอกาสที่คล็อปป์จะใช้แผน 4-4-2 แบบไดมอนด์ก็มีสูง หากต้องการให้นูเญชลงเป็นตัวจริงทันที เพราะคล็อปป์ยังไงก็ไม่ถ่างนูเญชออกข้างเป็นปีกแน่ ซาลาห์กับนูเญชอาจจะได้ยืนคู่กันในแดนหน้า โดยมีฟีร์มิโน่เป็นเพลย์เมกเกอร์ กองกลางอีก 3 คน ฟาบิญโญ่ ติอาโก และเอเลียตต์หรือเฮนเดอร์สันน่าจะพร้อม
ส่วนกองหลังโรเบิร์ตสันน่าจะกลับมาลงตัวจริงแทนซิมิกาส และอาร์โนล์ดก็คงได้รับเลือกให้ลงต่อไป แม้จะยังเป็นบ่อของทีมเรื่อย ๆ ส่วนคู่เซ็นเตอร์ ตอนนี้โกนาเต้กลับมาแล้วทำให้แนวรับดูแน่นขึ้น เกมนี้น่าจะได้ลงคู่กับฟานไดจ์คต่อ
สถิติที่น่าสนใจ
21 เกมหลังสุดในทุกรายการ สเปอร์สสามารถเอาชนะลิเวอร์พูลได้แค่นัดเดียวเท่านั้น และต้องย้อนไปไกลหลายปี คือปี 2017 ที่เปิดเวมบลีย์เอาชนะไปได้ 4-1 ลิเวอร์พูลมีสถิติการมาเยือนสเปอร์สที่ค่อนข้างดี ชนะ 5 จาก 9 เกมหลังสุดที่ไปเยือนสเปอร์ส และแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้น
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจคือ การเจอกันของทั้งสองทีมมักจะมีการทำเข้าประตูตัวเองกันบ่อย ๆ จนถึงตอนนี้ก็ 10 ลูกเข้าให้แล้ว มากกว่าทุกคู่ในพรีเมียร์ลีก
วังวนที่ต้องเวียนว่าย
สุดท้ายที่อยากจะบอกกับเพื่อน ๆ หงส์แดงว่า เกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกสำหรับเด็กหงส์ในฤดูกาลนี้ พูดก็พูดแบบไม่อายว่า มันไม่ค่อยพิสมัย ชวนลุ้น ชวนตื่นเต้นอะไรมากนัก เหตุเพราะในขณะที่ทีมอื่น ๆ ทำผลงานได้ดี ทีมหงส์แดงที่เปิดหน้ามาก่อนเปิดฤดูกาลนั้นเป็นทีมเต็งแย่งแชมป์กับซิตี แต่ตอนนี้แมนซิตีจ่าฝูงนำหงส์แดงไปแล้วถึง 16 แต้ม ทั้งที่ยังแข่งไปแค่ 12-13 เกมเท่านั้น
ความไม่โสภาของการลุ้นพรีเมียร์ลีกปีนี้อีกอย่างก็คือ ฟอร์มของทีมรักมักแกว่งไปแกว่งมา เอาแน่เอานอนไม่ได้ เราชนะเรือใบอย่างยิ่งใหญ่ แต่ก็แพ้ให้กับทีมบ๊วยและรองบ๊วยแบบหมดสภาพ พักหลังมันเลยกลายเป็นวังวนที่ทำให้แฟนหงส์ปรับจิตใจแทบไม่ทัน
เราทำผลงานดีมาตลอดในเกม UCL ชนะ 5 นัดติดต่อกัน ทุกครั้งที่ทีมชนะจาก UCL เราก็ตั้งความหวังไว้ว่ามันจะเป็นจุดเปลี่ยน เรียกความมั่นใจให้ทีมได้ต่าง ๆ นานา แต่พอกลับมาลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก มันก็ให้รู้สึกผิดหวังได้เสมอ
ที่บ่นแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่เชียร์ ไม่ดู ไม่ให้กำลังใจทีมนะครับ เพียงแต่แค่อยากจะสะกิดเพื่อน ๆ เด็กหงส์ทุกคนว่า ฤดูกาลนี้ทีมมีอะไรที่ต้องปรับต้องจูนเยอะมาก ผลงานและความคาดหวังมันอาจจะสวนทางกัน ซึ่งเราอาจจะต้องเวียนว่ายอยู่ในวังวนของการขึ้นลงของผลงานทีมแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งพวกเราก็ต้องเวียนว่ายไปพร้อมกันกับทีมนี่แหละครับ