แม้จะเตะดึกจนต้องนอนกันตีหนึ่งตีสอง แต่ก็ถือเป็นการเฝ้ารอดูทีมรักที่คุ้มค่า เพราะหงส์แดงของเราสามารถบุกชนะสเปอร์สได้สำเร็จ 1-2 ตอกย้ำความเหนือกว่าทีมสเปอร์สในยุคคล็อปป์ได้เป็นอย่างดี และนี่คือ 5 ประเด็นน่าประทับใจที่เรานำมาฝากกัน
ชัยชนะของคล็อปป์
คล็อปป์เพิ่งฉลองการคุมทีมครบ 400 เกมไปเมื่อเกมกับนาโปลีที่ผ่านมา ด้วยการเป็นทีมแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับนาโปลี และชัยชนะในเกมกับสเปอร์สก็ยังถือเป็นหมุดหมายใหม่ของคล็อปป์คือเป็นชัยชนะที่ 250 ของเขาในการคุมทีม นอกจากนั้นคล็อปป์ยังมีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการเจอกับสเปอร์ส
ลิเวอร์พูลภายใต้การนำทีมของคล็อปป์ไม่แพ้สเปอร์สมา 11 เกมติดต่อกันแล้ว และยังไม่เคยมาแพ้ที่สนามใหม่ของพวกเขา โดยส่วนตัวของคล็อปป์เองแพ้สเปอร์สเพียงแค่ 1 ครั้ง
ซาลาห์คืนฟอร์ม
หลังจากถูกทดลองนำไปเล่นเป็นปีกอยู่พักหนึ่งจนฟอร์มเป๋ ตอนนี้ซาลาห์คนที่เราคุ้นเคยกลับมาแล้วหลังจากได้เล่นในตำแหน่งกองหน้าคู่ ที่ทำให้เขาได้เล่นในพื้นที่ที่คุ้นเคยเช่นกัน อันที่จริงมันยังทำให้เขามีพื้นที่เล่นมิติใหม่ ๆ ด้วย คือเขาสามารถขยับมาเล่นทางฝั่งซ้ายได้มากขึ้น บ่อยขึ้น ไม่ต้องประจำการแต่ทางฝั่งขวาอย่างเดียว อยู่ในกรอบเขตโทษมากขึ้น ก็ทำให้มีโอกาสสับไกมากขึ้น
2 ลูกที่ทำได้วันนี้ก็มาจากในกรอบเขตโทษทั้งสองลูก อีกหนึ่งคนที่ทำให้งานของซาลาห์ง่ายขึ้นมากก็คือ การมีคู่หูร่างใหญ่ที่ใจดีอย่างนูเญช ที่วันนี้ปั้นซาลาห์ทั้งเกม และแอสซิสต์ให้ซาลาห์ยิงลูกแรกจากทักษะการพักบอลครองบอลของเขาที่ดีเยี่ยมในกรอบเขตโทษ
2 ประตูที่ทำได้ในคืนนี้ทำให้สเปอร์สกลายเป็นทีมที่ซาลาห์ทำประตูใส่เยอะมากที่สุดร่วมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ 10 ประตู และหากนับเฉพาะในเกมลีก เขาก็แซงหน้าฟาวเลอร์แล้วในการเป็นนักเตะลิเวอร์พูลที่ทำประตูใส่สเปอร์สได้มากที่สุด 7 ประตู ไม่ใช่แค่นั้น ซาลาห์ยังเป็นนักเตะทวีปแอฟริกาที่ทำไปแล้ว 126 ประตู แซงอเนลก้าที่ทำไป 125 ประตู
ซาลาห์ยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่องในพักหลัง เป็นความหวังของทีมได้ เขาทำไป 9 ประตูใน 8 เกมหลังสุด และมีส่วนร่วมกับประตูถึง 19 ประตูใน 20 เกมหลังสุดรวมทุกรายการด้วย แม้สกอร์อาจจะยังตามหลังนักเตะคนอื่น ๆ ในลีก โดยเฉพาะฮษแลนด์ แต่ตราบใดที่ยังมีเกมให้เล่น 20 กว่าเกม อะไรก็เกิดขึ้นได้
ชัยชนะของเกมเยือน
ไม่น่าเชื่อว่ากว่าหงส์แดงของเราจะชนะเกมเยือนในพรีเมียร์ลีกได้ก็เกือบครึ่งฤดูกาลแล้ว ก่อนหน้านี้หงส์แดงลงเล่นเกมเยือนในลีกมา 5 เกมไม่ชนะใครเลย และเป็นการแพ้ไปถึง 3 เกม เก็บได้แค่ 2 แต้มจากการบุกไปเสมอฟูแล่มและเอฟเวอร์ตัน ทำให้เกมเมื่อคืนกลายเป็นการชนะเกมนอกบ้านครั้งแรกของหงส์แดง
คล็อปป์ซื้อเกมรับ
ลิเวอร์พูลออกนำเร็วและนำในครึ่งแรกถึง 2 ประตู แต่ครึ่งหลังหงส์แดงเล่นในฟอร์มที่ดรอปลงเยอะ สเปอร์สสร้างโอกาสและกดดันหงส์แดงได้ตลอด จนมาได้ประตูตีตื้นในนาที 70 ไม่เพียงเท่านั่น คอนเต้ยังขนแนวรุกของทีมที่เหลืออยู่ลงสนามมาขึงใส่หงส์แดงอีก จนหงส์แดงแทบจะโงโหไม่ขึ้น ไม่สามารถเล่นโต้กลับหรือเบรกเกมของสเปอร์สได้เลย
นั่นทำให้คล็อปป์ตัดสินใจครั้งใหญ่ในการซื้อเกมรับของทีม ด้วยการเปลี่ยนเอาโจนส์ลงแทนฟีร์มิโน่ และกัปตตันเฮนโด้ลงมาแทนเอเลียตต์ เพื่อให้โจนส์ลงมาไล่เพรสแดนบนช่วยซาลาห์กับนูเญช ขณะที่เฮนเดอร์สันก็ลงมาช่วยประคองแดนกลางด้วยอีกแรง
นอกจากนั้นในช่วงท้ายเกมคล็อปป์ยังส่งโจ โกเมสลงมาแทนนูเญช และแชมเบอร์เลนลงมาแทนซาลาห์ ทำให้ช่วงท้ายเกมหงส์แดงไม่มีนักเตะที่เล่นกองหน้าหรือตัวรุกเลย แพ็คเกมรับสุดชีวิต เกมรับของหงส์แดงแม้จะไม่ใช่ช่วงพีค แต่เกมนี้ก็ช่วยกันได้ดีมาก ช่วยกันเคลียร์บอลได้มากถึง 29 ครั้ง
โกนาเต ความหวังใหม่
หนึ่งในคนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในเกมนี้คือ อิบราฮิมา โกนาเต ที่วันนี้โชว์เกมรับได้เหนียวสุดยอด เขาเคลียร์บอลจากพื้นที่อันตรายไป 8 ครั้ง เอาชนะการดวลในภาคพื้นไป 11 ครั้ง ชนะการดวลลูกกลางอากาศ 7 ครั้ง และแย่งบอลมาครอบครองอีก 9 ครั้ง นี่เป็นสิ่งที่กูรูต่างประเทศมองว่าเป็นตัวเลขที่ทำให้หงส์แดงชนะได้ในเกมนี้
นอกจากนั้น สถิติที่เขาทำได้ในแต่ละอย่างนั้น ยังเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในเกมเดียว มากกว่าที่เพื่อนร่วมทีมหงส์แดงเคยทำมาด้วย เรียกว่าลงมาครั้งเดียวเก็บเรียบทุกตัวเลขเลย
โกนาเต มีทั้งความแข็งแกร่ง ความเร็ว ความนิ่ง และมีชั้นเชิงทักษะฟุตบอลที่ไม่ธรรมดา เขาไม่ค่อยมีอาการล่กหรือเหมื่อลอยเหมือนโกเมส การพาบอลขึ้นไปข้างหน้าอาจจะไม่พลิ้วเหมือนมาติป แต่การออกบอลของเขาให้เพื่อนมันมีความดุดันและพร้อมจะคุกคามคู่แข่งได้
ลูกกลางอากาศที่เป็นจุดเด่นของเขาก็ทำให้หงส์แดงมีตัวเลือกเยอะขึ้นในการเล่นลูกเตะมุม เพราะหากเป็นโกเมส เขาแทบจะไม่เติมเกมรุกเวลาทีมได้ลูกเตะมุมเลย ตอนนี้สิ่งที่แฟนหงส์ต้องภาวนามากที่สุดคือ ขออย่าให้โกนาเต้เจ็บเลย เพราะมองดูแล้วตัวนี้แหละที่จะเป็นเดอะแบกเกมรับของหงส์แดงได้
ภารกิจพิชิต 2 เกมก่อนบอลโลก
ลิเวอร์พูลชนะทีมใหญ่มาสองเกมติดทั้งนาโปลีในเกม UCL และสเปอร์สในเกมลีก และสองเกมถัดจากนี้แหละที่เป็นเกมหนักหนาของจริง เพราะหงส์แดงจะต้องเจอทีมเล็กติดกัน 2 เกม โดยเป็นการเจอกับดาร์บี เคาน์ตี ในคาราบาวคัพ และเจอทีมอันดับ 18 ของตารางอย่างนักบุญแดนใต้
ก่อนหน้านั้นหงส์แดงก็แพ้มาแล้วทั้งบ๊วยอย่างฟอเรสต์และรองบ๊วยอย่างลีดส์ การมาเจอกับนักบุญทีมอันดับ 18 โซนตกชั้นเช่นกัน ก็อาจจะทำให้เด็กหงส์เสียวสันหลังวาบขึ้นมาได้ อาจจะโชคดีบ้างที่ทั้งสองเป็นการเล่นในบ้านทั้งคู่ ก็อาจจะทำให้หงส์แดงได้เปรียบบ้าง
สองเกมนี้สำคัญมาก เพราะเกมคาราบาว เราคาดหวังให้เป็นเกมที่คล็อปป์จะสามาถพักนักเตะตัวหลักและส่งนักเตะสำรองลงบู๊ได้ เพื่อเก็บแรงมาบู๊กับนักบุญอีกที ชัยชนะ 2 เกมนี้จะเป็นการปิดม่านครึ่งฤดูกาลแรกก่อนบอลโลกที่สวยงามที่สุดที่เราจะทำได้