เป็นที่รับรู้กันแล้วว่า โปรเจ็คใหม่ของคล็อปป์ในฐานะผู้จัดการทีมหงส์แดงที่มีสัญญากับทีมถึงปี 2026 คือ “การสร้างทีมใหม่” ขึ้นมา โดยคล็อปป์บอกเองเมื่อไม่นานมานี้ว่า โปรเจ็คนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาต้องต่อสัญญากับทีมออกไป และนี่คือ 5 คำถามเกี่ยวกับ ทีมใหม่ ที่คล็อปป์กำลังสร้าง
สร้างกี่ปี
แม้คล็อปป์จะเพิ่งบอกไปในหลายโอกาสว่า “ผมไม่มีเวทย์มนต์ หรือสามารถเสกสิ่งมหัศจรรย์ได้ การสร้างทีมใหม่ต้องใช้เวลา” กับทีมชุดแรกเราเห็นเลบว่าคล็อปป์ใช้เวลา 2-3 ปีโดยประมาณในการสร้างทีมชุดที่แข็งแกร่งขึ้นมา ก่อนที่จะพากันไล่ล่าความสำเร็จอีก 3-4 ปี
คล็อปป์เคยสร้างแต่ทีมใหม่ ไม่เคยต้องรื้อสร้างทีมใหม่ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในอาชีพการคุมทีมที่เขาตัดสินใจจะสร้างทีมใหม่ขึ้นต่อจากทีมเก่าที่เขาสร้างมา มันจึงเป็นสิ่งใหม่ของทั้งคล็อปป์และแฟนบอล และก็เป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยนักสำหรับสโมสรอย่างน้อยก็ในรอบกว่า 30-40 ปีมา
สโมสรไม่ได้ใช้งานกุนซือต่อเนื่องเกิน 7 ปี มานานแล้ว เพราะกุนซือส่วนใหญ่ก็มักจะลาออกหรือโดนไล่ไปพร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำของทีมที่ตัวเองสร้างมา กรณีของคล็อปป์มันจึงดูเหมือนกำลังจะเป็นข้อยกเว้น นั่นเท่ากับว่า สถานการณ์ต่อจากนี้มันแปลกและแตกต่าง
คล็อปป์กำลังขอเวลา และความอดทนจากแฟนบอล เขาประกาศอย่างชัดเจนว่า ไม่เร่ง ไม่รีบ ต้องการเวลา ขณะที่ก็บอกว่า ต้องเขาคนเดียวเท่านั้นถึงจะแบกรับแรงกดดันจากการสร้างทีมใหม่นี้ได้
ประเด็นก็คือ เราไม่รู้ว่า ทีมใหม่ที่เขากำลังสร้างนั้น ต้องใช้เวลาอีกนานขนาดไหน คล็อปป์มีสัญญาอยู่อีก 2-3 ปี ที่อาจจะได้เข้าสู่ตลาดนักเตะอย่างต่ำ ๆ ก็ 5-6 ครั้ง ที่จะหานักเตะ ปั้นนักเตะ ของตัวเอง ขึ้นรูปสำหรับ ทีมใหม่ที่เขากำลังสร้าง หากเป็นหมอก็คงเป็นเรื่องของการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ โดยที่เราไม่รู้เลยว่า ทีมใหม่ที่ผ่าออกมา จะเป็นยังไง
แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเรื่องเวลาอาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญมากนัก เราแฟนหงส์แดงคุ้นเคยดีกับการอดทนรอ ขอแค่เราจะได้เห็นพัฒนาการของทีมในทางที่ดีขึ้น และคงไม่เกินไปหรอกหากจะบอกว่า คล็อปป์ คือกุนซือที่คู่ควรกับการอดทนรอของแฟนบอล
ใช้เองหรือส่งไม้ต่อ
การสร้างทีมใหม่ คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คล็อปป์ตัดสินใจคุมทีมต่อ เพราะเขามองว่า ไม่ว่าใครมาคุมทีมตอนนี้ก็คงเจอปัญหาไม่ต่างกัน และเขาเองไม่อยากทิ้งปัญหาไว้แล้วก็จากไป ปัญหาก็คือ หากดูจากนักเตะชุดใหม่ที่ทยอยเข้าสู่สโมสรมา พวกเขาแทบจะมีอายุเฉลี่ยน้อยกว่า นักเตะในยุคแรก ๆ ที่คล็อปป์ซื้อมาตอนสร้างทีมครั้งแรกเมื่อปี 2015-2016 ด้วยซ้ำ เพราะในยุคนั้น มาเน่ ซาลาห์ ไวนาดุม โรเบิร์ตสัน ฟาบิญโญ่ อลิสซง รวมไปถึงฟานไดจ์ค มีค่าเฉลี่ยอายุที่ 24 ปีขึ้น
นักเตะชุดหลัง ๆ มา เราซื้อมาตอนอายุไม่เกิน 23 ทั้งนั้น ไล่ตั้งแต่โกนาเต้ ที่ซื้อมาตอนอายุ 21 เอเลียตต์ คาวัลโญ่ แรมซีย์ อายุ 16-18 ปี กักโป นูเญช โจตา พวกนี้ซื้อมาตอนอายุ 22-23 ปี อาจจะมีกรณีของดิอาชที่ซื้อมาตอนอายุ 24-25 ปี แต่ทั้งหมดนี่คือค่าเฉลี่ยอายุที่ต่ำลง
หากเรามองว่านักเตะของคล็อปป์มักจะฟอร์มพีค ๆ ตอนอายุ 26-29 ปี นั่นหมายความว่า โปรเจ็คการสร้างทีมใหม่ของคล็อปป์รอบนี้อาจจะต้องการเวลา 4-5 ปี ในการสร้างทีมชุดนี้ให้ถึงจุดพีคไล่เลี่ยกันได้ ขณะที่คล็อปป์เหลือสัญญากับทีมอีกแค่ 3 ปี มันจึงเกิดคำถามต่อมาว่า การสร้างทีมใหม่ของคล็อปป์ เขาสร้างเพื่อใช้เอง (ในระยะยาว) หรือ แค่ประกอบสร้างเพื่อส่งไม้ต่อให้คนอื่น
หากเป็นอย่างแรก แสดงว่าโอกาสที่คล็อปป์จะต่อสัญญากับทีมต่อไปอีกก็มีสูง แต่หากเป็นอย่างหลัง คำถามคือ การสร้างทีมใหม่กับการหาตัวกุนซือใหม่ เป็นกระบวนการเดียวกันและเชื่อมโยงกันหรือไม่ ถ้าใช่ก็ยิ่งน่าสนใจว่า ใครจะมาเป็นผู้สานต่อมรดกของคล็อปป์ ถ้ามองเป็นกระบวนการเดียวกัน แสดงว่ากุนซือคนต่อไป อาจจะเป็นคนใกล้ตัวคล็อปป์ที่ได้ร่วมกันสร้างทีมชุดนี้ใช่หรือไม่
ระบบใหม่ ระบบไหน
เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันว่า ทีมใหม่ ของคล็อปป์จะใช้ระบบการเล่นหรือแผนการเล่นแบบไหน เพราะฤดูกาลนี้ คล็อปป์มีการเปลี่ยนแปลงแผนการเล่นเยอะมาก ซึ่งมันก็เป็นไปตามเหตุผลความจำเป็นในแต่ละช่วง ในช่วงแรก ๆ ที่เราได้ตัวนูเญชมา ดูเหมือนว่าคล็อปป์พยายามจะหาระบบให้เข้ากับกองหน้าตัวใหม่
คล็อปป์เลือกใช้ทั้ง 4-2-3-1 และ 4-4-2 เพื่อให้นูเญชได้เล่นเป็นหน้าเป้า มันเกือบจะดี เกือบจะได้ผล และเราก็เห็นแล้วว่า เขาเองอันตรายและสร้างอิมแพคกับทีมเมื่ออยู่เป็นหน้าเป้า เขาสามารถฉีกกองหลังคู่แข่งได้ แต่เมื่อผลงานในภาพรวมของทีมมันยังไม่ตอบโจทย์ ก็ดูเหมือนว่า ระบบเหล่านั้นก็อาจจะยังไม่พร้อมใช้งาน
ตั้งแต่ลิเวอร์พูลซื้อตัว โคดี กักโป มา และคล็อปป์ยอมรับว่า ปัญหาของทีมตอนนี้เกินเยียวยา จำเป็นต้องสร้างทีมใหม่ เราก็จะเห็นว่าคล็อปป์เริ่มหันกลับมาหาแผน 4-3-3 แบบมีหน้าปลอม โดยการใช้กักโปในตำแหน่งและหน้าที่คล้ายกับฟีร์มิโน่ กองกลางใช้นักเตะที่ฟิตและพร้อมวิ่งไล่มากกว่า
โดยพักทั้งฟาบิญโญ่และเฮนโด้ที่ฟอร์มดรอป ใช้งานเด็กวัย 18 อย่าง ไบค์เซติก กับนักเตะที่นอนโรงบาลนานกว่าลงสนามซ้อม อย่าง นาบี เกอิตา มันก็ชัดแล้วว่า คล็อปป์ต้องการพลังงานในแดนหน้าและแดนกลางในการช่วยไล่ เพื่อแบ่งเบาภาระของกองหลัง และดันเอเลียตต์ขึ้นไปเล่นหน้าซ้าย
ประเด็นก็คือ ระบบการเล่นตอนนี้เป็นเพียงชั่วคราวหรือเป็นส่วนหนึ่งของการวางระบบให้ทีมใหม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็น่าสนใจ เพราะตัวรุกทางด้านซ้ายจะกระจุกกันไม่น้อย แต่หากระบบที่ใช้อยู่เป็นเพียงชั่วคราวและรอวันนักเตะตัวหลักกลับมา ก็น่าสนใจว่า ทีมใหม่ที่กำลังสร้างจะเล่นด้วยระบบไหนกันแน่ แต่เรื่องนี้คงไม่ใช่แกนหลัก จะเล่นด้วยระบบไหนก็ตาม ขอแค่ผลงานดี แฟนบอลก็ไม่เกี่ยง
แฟนบอลพร้อมรอหรือไม่
เป็นคำถามที่ผมเองก็ถามกับตัวเองว่า ในเมื่อคล็อปป์เองประกาศว่ากำลังสร้างทีมใหม่ และขอเวลาในการสร้างทีม แฟนบอลอย่างเราละ พร้อมที่จะให้โอกาสคล็อปป์หรือไม่ พร้อมไหมที่จะเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและซับพอร์ตทีม ให้โอกาสคล็อปป์ทำงาน สร้างทีมที่หวังอย่างเต็มที่
สำหรับผม อาจจะเซ็งอยู่บ้าง โอเค ยอมรับไปเลยว่า โคตรจะเซ็ง เราเพิ่งลุ้น 4 แชมป์เมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้ทุกอย่างสวนทางมาก ทั้งที่ก็เสริม ทั้งที่ก็นักเตะและโค้ชชุดเดิม แต่ทำไมฟอร์มมันห่วยขนาดนี้ ยอมรับว่ามีอาการหงุดหงิด จนต้องหยิบกาแฟดริปบ่อหลวง ของร้าน Becoming มาดริปดื่มแก้ความหงุดหงิด
ยิ่งเห็นฟอร์มนักเตะตัวหลักที่เล่นกันเหมือนไม่มีใจ ก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่ปลอบใจตัวเองด้วยคุกกี้ โฮมเมดจาก Becoming และคิดว่าเอาน่า คล็อปป์มาสร้างทีมให้เรา ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ทุกแชมป์ อันที่จริงคล็อปป์ก็มีเวลาอีก 3 ปี ไม่ใช่เวลาที่นานมากนัก
และที่สำคัญผมเชื่อว่าคล็อปป์จะไม่ปล่อยให้ทีมตกต่ำไปกว่านี้แน่ หากวันไหนเขารู้สึกว่า เป็นเพราะเขาเองที่ทำให้ทีมผลงานไม่ดี และมองว่าเกินความสามารถที่ตัวเขาเองจะกู้สภาพทีมได้ ถึงตอนนั้นผมเชื่อว่าคล็อปป์จะไม่ดื้อคุมทีมต่อ ดังนั้นสำหรับผม หนุน และให้โอกาสคล็อปป์เต็มที่ จนครบสัญญาของเขาเลย
….
สนับสนุนบทความโดย กาแฟ Becoming
กาแฟแหล่งปลูกใหม่ ที่เราใส่ใจทำทุกขั้นตอน
กาแฟที่ผมมีส่วนพัฒนาตั้งแต่กระบวนการแปรรูป จนถึงการคั่ว มีทั้งแบบซองดริปเพียง ฉีก เท แล้วดื่ม หรือแบบเมล็ดคั่ว เอาไปบดชงตามสไตล์ของตัวเอง สั่งได้เลยใน Shopee พิมพ์คำว่า ‘Becoming B&B’ ใน facebook พิมพ์คำว่า Becoming Brew&bake หรือติดต่อผ่านเพจ We are liverpool ได้เลยครับ