ตลาดอันเตลิดของหงส์แดง

ตลาดหน้าหนาวของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกปิดลงไปอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อเวลา 6 โมงเช้าวันนี้ตามเวลาของประเทศไทย ท่ามกลางการเสริมทัพอันดุดันของเชลซี การต้องการรักษาสมดุลนักเตะของทั้งอาร์เซนอลและแมนยู ลิเวอร์พูลของ FSG (ผมจงใจใช้คำว่า FSG อย่างมีนัยสำคัญ) กลับนิ่งเงียบและจบตลาดไปด้วยการประกาศนักเตะเจ็บใหม่อย่างโกนาเต้

การไม่จับจ่าย ซื้อขาย ไม่มีคนเข้า ไม่มีคนออกเลยของลิเวอร์พูลในตลาดรอบนี้ เต็มไปด้วยปริศนาและคำถามมากมาย เพราะทีมนี้ ขุมกำลังชุดนี้ ไม่ดีพอแน่นอนสำหรับการลุ้นอะไรก็ตามที่มีอยู่ข้างหน้า นั่นหมายรวมถึงว่า ต่อให้เราได้นักเตะตัวหลักอื่น ๆ กลับมาก็อาจจะไม่ดีพอ และอาจจะสายไปด้วยซ้ำ มันเลยเกิดคำถามขึ้นมาในหัวจิตหัวใจแฟนบอลอย่างผม โดนที่คิดว่า ยังไงซะ ก็คงไม่มีคำตอบหรอก

ปฏิเสธการรักษาหรือหมอไม่ยอมจ่ายยา

การเปรียบเทียบสถานการณ์ของหงส์แดงในตอนนี้เหมือนผู้ป่วยที่มีอาการค่อนข้างสาหัส แม้ไม่ปางตาย แต่ก็เหมือนจะเรื้อรัง แต่กลับปฎิเสธการรักษา และคิดว่าสภาพร่างกายที่บอบช้ำจะฟื้นฟูโดยเร็ว จะด้วยค่ารักษามันแพง หรือเพราะมั่นใจว่าร่างกายยังทานไหว มันก็อาจจะมองได้ว่า เป็นผู้ป่วยที่ปฏิเสธการรักษา

เมื่อเทียบกับทีมที่กำลังลุ้นอันดับ 4 หรือพื้นที่ยุโรปด้วยกัน เชลซี อันดับ 10 ทุ่มงบมหาศาลเพื่อปรับปรุงทีม และเยียวยาสภาพทีม อันที่จริงทีมเชลซียังมีขุมกำลังที่พอผลัดเปลี่ยนกันได้มากกว่าหงส์แดงเสียอีก แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เลี้ยงไข้ และปล่อยให้อาการป่วยลุกลามไปมากกว่านี้

แมนยูฯ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่หงส์แดงอาจจะต้องแซงพวกเขาให้ได้หากยังหวังพื้นที่ท้อปโฟร์ พวกเขาเพิ่งจะเสียคริสเตียน อีริกเซ่น ในบอลถ้วยไปไม่ถึงสัปดาห์ ทันที่รู้ว่านักเตะต้องพักยาว 3 เดือน พวกเขาไม่รอช้า รีบเร่งจนสามารถคว้าตัว ซาบิชเชอร์ ของบาเยิร์นมาได้แบบยืมตัว

อาร์เซนอล ที่กำลังมีลุ้นแชมป์ และเป็นจ่าฝูง ขณะนี้ เพิ่งจะเสียกองกลางคนสำคัญอย่างปาเตย์ไป แม้จะมีนักเตะแดนกลางให้เลือกในทีมจำนวนหนึ่ง พวกเขาก็ไม่ยอมให้ทีมต้องเสี่ยง เดินเครื่องขอซื้อไกเซโด เมื่อไบร์ทตันไม่ยอม พวกเขาก็รีบไปหาจอร์จินโญ่ ด้วยค่าตัวแสนถูกเพียง 12 ล้านปอนด์

ขณะที่คล็อปป์รับหน้าออกสื่อให้ตัวเองโดนกร่นด่าทุกวัน คำถามของผมคือ แล้ว FSG หายอวัยวะส่วนบนสุดของร่างกายไปไหน  ทุกอย่างในทีมตอนนี้เหมือนกับจะโยนมาทิ้งบนบ่าของชายชื่อคล็อปป์ทั้งหมด ทั้งผลงานในสนาม สภาพจิตใจนักเตะ สภาพทีม ยิ่งคล็อปป์เป็นกุนซือประเภทไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน อะไรไม่ดีก็เก็บไว้ แบกไว้คนเดียว

หากเป็นกุนซือคนอื่น ๆ ที่เราเคยเห็นมา ขอยกตัวอย่างเลยละกัน อย่างมูริญโญ่ หรือ คอนเต้ หากพวกเขาต้องการเสริมทีมแล้วไม่ได้อย่างที่ต้องการ พวกเขาก็พร้อมจะฟ้องนาย เสมอ แต่กับคล็อปป์ตลอดอาชีพเขาไม่เคยทำอะไรแบบนั้น เป็นลูกน้องที่ค่อนข้างจงรักภัคดีกับนายจ้างอย่าง FSG  ไม่พาดพิง ไม่มีบ่น ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

นับตั้งแต่กรณีการประกาศขายสโมสรอย่างโจ่งแจ้ง ในเวลาที่ทีมผลงานไม่ดี จนถึงบัดนี้ที่ทีมยังทำผลงานได้ไม่ดีต่อเนื่อง เราแทบไม่เห็นปฎิริยาของประธานสโมสรเลย ดังนั้นคล็อปป์จังรับเผือกร้อนนี้ไม่เต็ม ๆ แต่เพียงผู้เดียวในหน้าสื่อ จนเหมือนกับว่า คล็อปป์เป็นผู้ป่วยที่ตัดสินใจไม่รับการรักษาเสียเอง มิใช่เพราะหมออย่าง FSG ไม่ยอมจ่ายยาให้ ทั้งที่เห็นอยู่ทนโท่ว่าสภาพทีมนั้นไม่ไหวแล้ว

สร้างทีมใหม่ ก็เหมือนผ่าตัดนั่นแหละ เราต้องเสียเลือดมาก และต้องการเลือดมาเพิ่ม ซึ่งเป็นการเยียวยาระยะสั้นที่โคตรจำเป็น ลิเวอร์พูลเคยพยายามมาแล้วกับดีลของอาร์ตูร์ แม้ดูจะไม่ได้ผล แต่มันก็ควรจะมีแบบนั้นบ้างไม่ใช่หรือ แล้วแมนยูยังกระเสือกกระสนไปเอาตัวซาบิชเซอร์มาได้

แพนิก (ไม่) บายหรือเปล่า

การตลาดหงส์แดงได้รับการยกย่องมาหลายตลาด อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ชื่อว่าซื้อตัวอย่างอดทน และไม่แพนิกบาย หรืออาการซื้อเพราะตื่นตระหนก ตกใจ จนการซื้อขายของทีมกลายเป็นมาตรฐานให้หลาย ๆ ทีมเดินรอยตาม แต่จากตลาดรอบนี้มันอาจจะกลายเป็นว่าหงส์แดงติดบ่วงตัวเอง

กลัวจะแพนิคบายมากเกินไปจนเกิดการ แพนิกไม่บาย ตระหนกตกใจและกลัวที่จะซื้อเกินไป กลัวว่าซื้อแล้วจะกลายเป็นแพนิกบายหรือไม่ กลัวว่าจะเอาเงินที่จะซื้อเป้าหมายใหญ่ในตลาดหน้ามาลงทุนแบบไม่คุ้มหรือไม่ เพราะรู้สึกว่าสโมสรดูจะกังวลกับการซื้อขายในตลาดนี้มากเกินไป จนกลายเป็นดาบสองคมของนโยบายซื้อขายซะเอง

หรือว่าปล่อยจอย

ผู้ป่วยรู้ตัวว่ารักษายังไงก็คงไม่รอด หมอก็คิดว่า จ่ายยาไปก็เปลือง อีกทั้งถ้าให้คิดเร็ว ๆ อาจะเป็นไปได้ไหมว่า ตอนนี้สโมสรไม่ได้มองถึงการติดท้อปโฟร์แล้ว  เพราะมองว่าต่อให้เสริมทัพอย่างบ้าคลั่งตอนนี้ โอกาสที่ทีมจะเบียดช่องว่าง 10 แต้ม ขึ้นไปคงยาก เพราะทุกอย่างมันไม่ได้อยู่ในมือของหงส์แดงแล้ว

อาร์เซนอล แมนซิตี แมนยู คงเป็น ท้อปสามแน่ ๆ เมื่อมองถึงนิวคาสเซิล ที่ระบบทีมดี นักเตะพร้อม คงเส้นคงวา หรือเชลซีที่เสริมทีมบ้าคลั่ง โอกาสที่หงส์แดงจะพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน ได้ท้อปโฟร์นั้นคงยากเกินไป ดังนั้น หากจะลงทุนจริง ๆ สู้อดทน กัดฟันไปทุ่มงบประมาณผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ในฤดูกาลหน้าจะดีกว่า

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นด้วยเพราะเหตุผลใด การที่สโมสรตัดสินใจไม่ซื้อ ไม่เสริม ก็แสดงว่า พวกเขามีแผนการสำรอง มีเป้าหมายที่อยากจะทำ ผมเห็นด้วยกับที่แกรี่ เนวิลล์ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคล็อปป์เมื่อวานว่า

“คล็อปป์ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่ลิเวอร์พูล ดังนั้นผมจะยังไม่วิจารณ์เขาอย่างดุเดือดในปีนี้ สิ่งที่เขาทำมาตลอด 4-5 ปี ผมจะยอมให้พวกเขาได้พักสักฤดูกาล พวกเขามีผลงานมากพอจะพูดได้ว่าเราเชื่อใจในฐานะผู้จัดการทีมและผู้เล่น ว่าจะกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง”

ใช่แล้วครับ แม้ว่าตลาดรอบนี้มันจะเตลิดเปิดเปิงและยุ่งเหยิงสักแค่ไหน แต่ทั้ง FSG ทั้งคล็อปป์ และรวมถึงนักเตะทุกคน พวกเขามีคุณงามความดีและผลงาน มากเพียงพอ ที่จะขอโอกาสจากเรา มากพอที่จะทำให้เรายังอดทนและเชื่อใจพวกเขาว่าจะกลับมาได้แน่ ๆ

ผมก็เชื่อแบบนั้น ในวันที่พายุโหมพัดกระหน่ำ ใครกันจะเดินเคียงข้างสโมสร หากไม่ใช่แฟนบอลอย่างพวกเรา

(AD) แต่หากวันไหนที่หิวกาแฟดี ๆ  จากแหล่งปลูกใหม่ ที่เราใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่เด็ดจากต้น ยันคั่วจากหม้อ หรือคุกกี้นุ่ม ๆ อร่อย ๆ หนึบหนับ สูตรลับของทางร้านเราเอง ก็อย่าเพิ่งปล่อยจอย กันนะครับ

มาสนับสนุนกาแฟและคุกกี้ จากร้าน  Becoming ผู้สนับสนุนคอนเทนท์ดี ๆ ของเราด้วยนะครับ ไม่ซ์้อไม่ว่า มาส่องร้านเราก่อนได้

Becoming B&B, ร้านค้าออนไลน์ | Shopee Thailand